จากผลงานอมตะของ Orson Scott Card Ender's Game (1985) ที่เป็นเรื่องราวสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์กับสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่มีวิวัฒนาการมาจากแมลง (Buggers - ฉบับภาษาไทยใช้คำว่า "แมง"?) มนุษย์สามารถรักษาโลกเอาไว้ได้แบบฉิวเฉียด โดยกองกำลังพิเศษที่ถูกคัดมาจากเด็กที่มีพรสวรรค์ทั้งหลาย ภายใต้การนำของ Andrew Wiggins หรือ Ender
นั่นเป็นเรื่องราวของ Ender's Game
14 ปีต่อมา Orson Scott Card ได้นำเรื่องราวของ Ender's Game มาปัดฝุ่นใหม่ ผ่านมุมมองของเพื่อนร่วมทีมที่มีอายุน้อยที่สุดใน Battle School ซึ่งกลายมาเป็นสหายร่วมรบมือขวาของ Ender ที่รู้จักกันในขื่อ "Bean"
มาคราวนี้ Ender's Shadow (1999) เล่าความเป็นมาของ Bean จากเด็กเร่ร่อนในเมือง Rotterdam ที่ต้องใช้ไหวพริบในการเอาชีวิตรอดบนท้องถนน ก่อนที่จะถูกคัดเลือกเข้ามาใน Battle School ด้วยความฉลาดเกินวัย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทับซ้อนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Ender's Game แต่เนื้อเรื่องเดิมได้ถูกดำเนินไปในมุมมองของ Bean และมีรายละเอียดที่ไม่ได้ปรากฏอยู่ใน Ender's Game อยู่ด้วย ซึ่งการเข้ามาใน Battle School ของ Bean นี้เอง นำไปสู่การเปิดโปงความเป็นมาที่แท้จริงของตัวเขาเอง ซึ่งส่งผลให้ Bean เปลี่ยนมุมมองต่อตัวของเขาเอง และมนุษยชาติตลอดไป
แน่นอนว่าเรื่องราวของ Bean ยังดำเนินต่อไป หลังจากนี้ไปจะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกหลังจากที่สงครามกับพวก Buggers จบลง เส้นทางของ Bean และ Ender จะไม่มาบรรจบกันอีก และยุคของ Hegemon ที่นำโดย Peter Wiggins เพิ่งจะเริ่มต้น และแน่นอน สงครามยังไม่จบ
"Ender's war is over," he thought. "This next one will be mine."
Saturday, July 18, 2009
Wednesday, July 08, 2009
Stephen King's Salem's Lot
Salem's Lot เป็นผลงานของ Stephen King ที่เขียนขึ้นในช่วง ปี 1976 เป็นเรื่องราวของเมืองเล็ก ๆ ในรัฐ Maine ที่กลายสภาพเข้าสู่เมืองร้างโดยที่ไม่มีคนภายนอกให้ความสนใจ แต่ภายในความเงียบของเมืองนี้ มีที่มาจากการมาของบุคคลภายนอก 2 คน ซึ่งได้นำเอาความน่าสะพรึงกลัวติดตามมาด้วย
ความสยองขวัญของเนื้อเรื่องอยู่ที่การที่เมืองค่อย ๆ เปลี่ยนจากเมืองธรรมดาให้ตกอยู่ภายใต้อุ้งมือของสิ่งมีชีวิตที่มาจากความมืด และการเผชิญหน้ากับวัยเด็กที่น่าสะพรึงกลัวของตนเองของตัวเอกในเรื่อง นำไปสู่การเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายระหว่างเขา กับ มัน โดยดำเนินไปภายใต้ความรู้สึกสยองแบบคลาสสิกของ Bram Stoker's Dracula และเรื่องการมาของปีศาจที่มาพร้อมกับร้านขายของแบบ The Needful Things
ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของ Salem's Lot ก็คือ เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของนักบวชที่ชื่อ หลวงพ่อ Callahan ที่ไปปรากฏตัวใน The Dark Tower series ในช่วงตั้งแต่ Wolves of Calla ซึ่งเป็นเล่มที่ 5 เป็นต้นไป ที่ถูกเขียนขึ้นในอีก 20 กว่าปีต่อมา ในต่างเวลา และสถานที่ (มิติ?)
อ่านแล้วคงต้องกลับไปดู Bram Stoker's Dracula ของ Stanley Kubrick อีกสักรอบ หรือไม่ก็รอดู Daybreakers น่าจะดี
ความสยองขวัญของเนื้อเรื่องอยู่ที่การที่เมืองค่อย ๆ เปลี่ยนจากเมืองธรรมดาให้ตกอยู่ภายใต้อุ้งมือของสิ่งมีชีวิตที่มาจากความมืด และการเผชิญหน้ากับวัยเด็กที่น่าสะพรึงกลัวของตนเองของตัวเอกในเรื่อง นำไปสู่การเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายระหว่างเขา กับ มัน โดยดำเนินไปภายใต้ความรู้สึกสยองแบบคลาสสิกของ Bram Stoker's Dracula และเรื่องการมาของปีศาจที่มาพร้อมกับร้านขายของแบบ The Needful Things
ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของ Salem's Lot ก็คือ เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของนักบวชที่ชื่อ หลวงพ่อ Callahan ที่ไปปรากฏตัวใน The Dark Tower series ในช่วงตั้งแต่ Wolves of Calla ซึ่งเป็นเล่มที่ 5 เป็นต้นไป ที่ถูกเขียนขึ้นในอีก 20 กว่าปีต่อมา ในต่างเวลา และสถานที่ (มิติ?)
อ่านแล้วคงต้องกลับไปดู Bram Stoker's Dracula ของ Stanley Kubrick อีกสักรอบ หรือไม่ก็รอดู Daybreakers น่าจะดี
Friday, July 03, 2009
Customer service by Twitter: Overheard
เมื่อวานเจอวิธีการใช้ Twitter มาเป็นเครื่องมือสำหรับภาคธุรกิจแบบใหม่ ที่ทำให้ช่วยเพิ่มโอกาสการให้บริการ และให้ข้อมูลลูกค้าได้ด้วย โดย GetSatisfaction
เรื่องมีอยู่ว่า หลังจาก install firefox 3.5 ผ่านทาง Ubuntu repos แล้วพบว่า ยังเป็น beta version อยู่ ไม่ใช่ stable release ก็เลยเกริ่นลอย ๆ เข้าไปใน Twitter
อีกประมาณ ครึ่งชั่วโมงต่อมา มี tweet นี้โผล่มาใน mention list
พอตาม link เข้าไปดูก็เจอคำอธิบายให้ลูกค้าเสร็จสรรพ ด้วยการขึ้นหัวเรื่องว่า "Overheard from twitter post"
โมเดลการตอบสนองลูกค้าแบบคอยเงี่ยหูฟังคนบ่น แบบนี้ก็น่าสนใจดี เพราะ twitter ก็เป็นที่รำพึง เรื่องต่าง ๆ ของผู้คนอยู่แล้ว เพียงแต่ดักคำที่ต้องการ แล้วก็ให้ข้อมูลกันแบบ realtime ได้เลย
อ้างอิง:
http://twitter.com/zybernav/status/2435410120
http://twitter.com/getsatisfaction/status/2436551975
เรื่องมีอยู่ว่า หลังจาก install firefox 3.5 ผ่านทาง Ubuntu repos แล้วพบว่า ยังเป็น beta version อยู่ ไม่ใช่ stable release ก็เลยเกริ่นลอย ๆ เข้าไปใน Twitter
อีกประมาณ ครึ่งชั่วโมงต่อมา มี tweet นี้โผล่มาใน mention list
พอตาม link เข้าไปดูก็เจอคำอธิบายให้ลูกค้าเสร็จสรรพ ด้วยการขึ้นหัวเรื่องว่า "Overheard from twitter post"
โมเดลการตอบสนองลูกค้าแบบคอยเงี่ยหูฟังคนบ่น แบบนี้ก็น่าสนใจดี เพราะ twitter ก็เป็นที่รำพึง เรื่องต่าง ๆ ของผู้คนอยู่แล้ว เพียงแต่ดักคำที่ต้องการ แล้วก็ให้ข้อมูลกันแบบ realtime ได้เลย
อ้างอิง:
http://twitter.com/zybernav/status/2435410120
http://twitter.com/getsatisfaction/status/2436551975
Subscribe to:
Posts (Atom)