Wednesday, May 27, 2009

Ubuntu Jaunty: Tracker index error

ปัญหา Tracker Indexer error หลังจาก upgrade เป็น Jaunty

หลังจากที่ได้ upgrade จาก Intrepid เป็น Jaunty ไปได้สักพักก็เริ่มมีอาการแปลก ๆ โดย มี dialog box แจ้งว่า Tracker Applet error เป็นระยะ (ไม่ได้ capture screen เอาไว้) ข้อความก็มีว่า

------
Tracker Applet

Tracker
There was an error while performing indexing
Index corrupted

Reindex All, Cancel, OK
------

หลังจากที่ค้นดูใน Google ก็มีคนที่เจอปัญหาในทำนองเดียวกัน (หลังจาก upgrade เป็น Jaunty เช่นเดียวกัน?) โดยปัญหาเหมือนจะเกิดจาก cache ของ Tracker เอง ซึ่งวิธีแก้ปัญหาก็คือการล้างไพ่ cache ของ Tracker ใหม่

---
killall trackerd
killall tracker-indexer
rm -rf .cache/tracker .local/share/tracker/data
---

หลังจากที่ลองใช้มาได้สักพักก็ไม่เจอปัญหานี้อีก

ท่าทาง Ubuntu version x.04 จะมีอาถรรพ์ รอบที่แล้ว Hardy หา wireless LAN ไม่เจอ มา Jaunty ก็มีปัญหากับ การ์ดจอของ Intel จน compiz เดี้ยง

คราวหน้าต้องดูกันดี ๆ ก่อน upgrade ซะแล้ว


References:
launchpad
bug.debian.org

Sunday, May 24, 2009

ประสบการณ์จากปูซาน

  • เกาหลีเปลี่ยนตัวสะกดภาษาอังกฤษจาก P เป็น B ซะมากเพราะต้องการเสียง ป ไม่ใช่ พ ปูซานก็เลยเป็น Busan และ Pumo temple กลายเป็น Beomeosa temple
  • อย่าแลกเงินวอนที่สุวรรณภูมิเป็นอันขาด เพราะแพงมากจนอาจทำให้ซื้ออะไรไม่ลง (15 พ.ค. 52 ขาย 0.046 KRW = 1 THB; ซื้อ 0.024 KRW=1 THB!) ถ้าจำเป็นให้แลกไปเป็น USD แล้วค่อยไปแลกที่เกาหลี
  • คนปูซานส่วนใหญ่อาศัยบนตึกสูง เดินทางใต้ดิน ช็อปปิ้งใต้ดิน บนถนนช่างเงียบเชียบ
  • เห็นวิธีการใช้ net book แบบใหม่ โดยสาว ๆ ที่นี่ ใช้เครื่องเล็ก ๆ ดูหนังซีรี่ย์ ในระหว่างนั่งรถไฟฟ้า
  • เชื่อแล้วว่า เกาหลีเป็นประเทศโรแมนติกแบบในหนังซีรี่ย์ (ดูรูปประกอบ)
  • น้ำประปาเข้าจมูกทำให้จาม
  • อีกข้อหนึ่งที่ทำให้ปูซานเป็นเมืองที่น่าอิจฉา เพราะมีภูเขาอยู่ใกล้ ๆ ให้ hiking ได้ (Mt. GeumJeung fortress) มีเส้นทางเดินลงมาถึงวัด Beomeosa ด้วย (9 km)
  • ปลั๊กไฟเป็นแบบยุโรป
  • ถ้าอ่านภาษาจีนออก อาจจะอ่านป้ายในเกาหลีได้ ถ้าพูดภาษาญี่ปุ่นได้ อาจจะพูดกับคนเกาหลีรู้เรื่อง (วัย 60 ขึ้นไป)
  • เซจู เป็นชื่อเหล้าของเกาหลีที่ขายดีที่สุด (18% Alcohol) ว่ากันว่าผู้ชายเกาหลีดื่มปีละ 160 ขวด/คน (ลืมถามสถิติโรคตับแข็ง)
  • ปลาปักเป้ากับถั่วงอก แก้เมา (!??!!)
  • มือถือที่เอาไปใช้ต้องเป็น 3G หรือก็ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน ข้อดี: เร็วได้ใจ เล่นเพลิน ข้อเสีย: แพง เล่นเพลิน สิ้นเนื้อประดาตัว
  • เครื่องสำอาง skin food ขายอยู่ในร้านห้องแถว และ home plus (ประมาณ Lotus - big C บ้านเรา) แต่ไม่มีหน้าร้านอยู่ กับโซนเครื่องสำอาง brand name
  • ความสามาวถในการซื้อเครื่องสำอางของตัวเอง = 75% (ซื้อถูกต้อง 3 ชิ้น ใน 4 ชิ้น) คราวหน้า ให้คนที่ฝากซื้อ print ชื่อ รูป พร้อมสรรพคุณ มาให้เลยดีที่สุด
  • Korea in 3 words: ทันสมัย, น่ารัก, อร่อย (เทคโนโลยี, สาว ๆ, อาหาร เรียงตามลำดับ ห้ามสลับที่!)
Link: Sunshine in Busan photos

Sunday, May 10, 2009

Stand By Me

Stand By Me เป็นเพลงที่ร้องโดย Ben E. King ถูกเขียนขึ้น และนำมาร้องครั้งแรกในปี 1961 ต่อมา John Lennon ได้เอามาร้องใหม่ ในรูปแบบของ The Beatles ที่รู้จักกันดี แล้วก็มีการนำมาร้องในอีกหลายเวอร์ชันด้วยกัน

ผมได้ยินเพลงนี้ครั้งแรกจากการดูหนังที่มีชื่อเรื่องเดียวกัน ซึ่งมีโครงเรื่องมาจากเรื่องสั้นของ Stephen King เรื่อง The Body ตัวหนังเป็นเรื่องราวความเป็นเพื่อนของเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ออกเดินทางผจญภัยไปด้วยกัน การค้นพบสิ่งต่าง ๆ ในระหว่างเดินทาง เป็นองค์ประกอบของการเดินทางเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ (มารู้ทีหลังว่าเขาเรียกว่าแนว coming of age) ซึ่งมีคนเคยบอกว่า ผู้ใหญ่ทุกคนจะต้องผ่านช่วงเวลาของตัวละครในเรื่องนี้ ไม่คนใดก็คนหนึ่ง

Stand By Me ก็เป็นเพลงที่นำมาร้องในช่วง end credit ของหนังเรื่องนี้นี่เอง ชอบจนไปหาต้นฉบับมาฟังจนได้ หลังจากนั้นเพลงนี้เป็นเพลงที่ติดอยู่ในหัวมานานหลายปี (รวมที่ดูหนังซ้ำไปอีกหลายรอบ)

เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้เปิดไปเจอเวบหนึ่ง ที่เรียกตัวเองว่า Playing for Change ที่เรียบเรียงเสียงนักดนตรีจากประเทศต่าง ๆ ทุกมุมโลก โดยอาศัยเครื่องมืออัดเสียง และคอมพิวเตอร์ มานำเสนอบนอินเตอร์เนต แล้วก็ได้ฟังเพลง Stand By Me อีกครั้ง คราวนี้ประกอบขึ้นจากนักดนตรี 35 คนทั่วโลก ให้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่งที่ไม่เหมือนเดิมซะทีเดียว แต่ก็เห็นด้วยกับคำบรรยายในเวบ ว่า แม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่เคยพบปะกันโดยตรงก็ตาม แต่เสียงดนตรีก็ได้ทำหน้าที่เชื่อมโยงพวกเขาเข้าด้วยกันเรียบร้อยแล้ว



รับฟังที่:

อ้างอิง:

Saturday, May 02, 2009

หน้าจอ Chat styled SMS สำหรับ Symbian

หลังจากที่ iPhone เป็นผู้เริ่มต้นการใช้หน้าจอ SMS แบบ chat style เป็นเจ้าแรก PalmOS และ Windows mobile ก็เริ่มมีความสามารถแบบนี้เพิ่มขึ้นมาแล้ว คราวนี้ถึงคราว Symbian บ้างหลังจากที่คราวก่อนบ่นเอาไว้ในประสบการณ์หลังเปลี่ยนมาใช้ Symbian

มาวันนี้คนใช้ Symbian ก็ได้มีโอกาสใช้หน้าจอ SMS ในแบบของ chat กับเขาบ้าง แต่ว่าต้องใช้โปรแกรม 3rd party ที่มีชื่อว่า Free-iSMS ซึ่งสามารถ download มาใช้ได้ฟรี (เป็น unsigned application ซึ่งก็จัดการไปแล้วด้วย Drakkarious) เมื่อ install เสร็จแล้ว ก็เปิดใช้งาน โดยจะต้องทำการ sync message ในครั้งแรก และการเปิดโปรแกรมใหม่ หากมีการได้รับ SMS ในช่วงระหว่างนั้น แล้วก็เริ่มใช้งานได้เลย

ใช้มาได้พักใหญ่เพิ่งมาเห็นว่าหน้าจอเหมือนของ iPhone อย่างกับแกะ