Sunday, December 28, 2008

Bluetooth กับ KDE 4.1

หล้งจากที่ upgrade Kubuntu เป็น Intrepid Ibex ไปได้ไม่นานก็เจอปัญหาที่ไม่คิดว่าจะไม่เจอ เ้ท่าที่ค้นเจอ ก็มาจากสาเหตุ ที่ Ubuntu upgrade bluez-utils จาก version 3 ไปเป็น 4 ทำให้ kbluetooth เดิมใช้ไม่ได้อีกต่อไป และเครื่องมือสำหรับ bluetooth ที่จะทำงานได้บน KDE4 ก็ยังไม่มี ทำให้การใช้งาน bluetooth บน Kubuntu เป็นอัมพาตไปโดยปริยาย แม้แต่การ pair กับอุปกรณ์ชิ้นอื่น ๆ (https://bugs.launchpad.net/ubuntu/+source/kdebase-workspace/+bug/280997)

เนื่องจากในขณะนี้ยังไม่มีเครื่องมือบน KDE4 ตัวใดที่ยังไม่สามารถใช้งาน bluetooth ได้ จึงต้องพึ่งเครื่องมือบน GNOME แทน โดยการติดตั้ง gnome-bluetooth

apt-get install bluez-gnome

แล้วก็ run tray application โดย run

bluetooth-applet

ก็จะปรากฏ tray icon ขึ้นบน tray panel ของ KDE ซึ่งจะสามารถทำการ pair กับอุปกรณ์ bluetooth ชิ้นอื่น ๆ และสามารถทำการเชื่อมต่อได้แล้ว

ที่มา: launchpad, ubuntuforums

Monday, December 22, 2008

Dragon player & w32codecs

เมื่อวันก่อนได้ไฟล์ .rmvb มากองนึง จากการค้นเจอว่าเป็นไฟล์ในตระกูล real player ซึ่งจำเป็นจะต้องลงโปรแกรมเฉพาะเพื่อเปิดไฟล์

สำหรับ linux แล้วมีทางเลือกอีกทางหนึ่ง คือ การ install mplayer และ w32codecs เพื่อเปิดไฟล์ rmvb นี้ แต่บนระบบที่ใช้อยู่มี media player อยู่แล้ว 3 ตัว (VLC, Kaffeine, Dragon player) ก็เลย ไม่อยากลงตัวที่ 4 ก็เลยลอง install เฉพาะตัว w32codec ดู ด้วยการ extract ไฟล์ที่ได้จาก mplayerhq ไปไว้ที่ directory /usr/lib/codecs

จากการทดสอบพบว่า Dragon player สามารถใช้ w32codecs ได้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้อง install mplayer เพิ่มเติม แต่อย่างใด เป็นอันว่าประหยัดการลงโปรแกรมเพิ่มไปได้ 1 และงานนี้ยังได้ library สำหรับเล่น media มาอีก 1 กอง

Friday, December 12, 2008

คุณครูขู่จะฟ้อง Linux ฐานแจกจ่ายซอฟท์แวร์ผิดกฎหมาย และตำหนิทำให้เด็กล้าหลัง

คุณครูท่านหนึ่ง ได้ทำการยึดแผ่น CD ของ Helios OS ซึ่งเป็น Linux distribution หนึ่งจากเด็กนักเรียนคนหนึ่งในชั้นของเธอ หลังจากที่พบว่าเด็กคนนี้กำลัง สาธิตการทำงานของ HeliOS และแจกจ่าย HeliOS CD ให้กับเพื่อนร่วมชั้น และเมื่อได้เรียกเด็กคนนี้มาสอบถามเพิ่มเติมแล้ว ก็ได้ทำการส่ง e-mail ไปยัง HeliOS project โดยข่มขู่ว่า จะทำการฟ้องร้องดำเนินคดี ถ้าหากไม่หยุดแจกจ่ายซอฟท์แวร์ที่ผิดกฎหมาย

เนื้อความบางส่วนกล่าว่า เธอเชื่อว่าไม่มีซอฟท์แวร์ที่ไหนในโลกที่ฟรี และส่งที่ HeliOS project กำลังทำอยู่นั้นเป็นการพูดเกินความจริง และตั้งอยู่บนพื้นฐานของการหลอกลวง ความพยายามที่จะนำคอมพิวเตอร์ไปสู่มือเด็กที่ด้อยโอกาส โดยมี Linux ถูกติดตั้งไปในคอมพิวเตอร์เหล่านั้น เป็นการปิดกั้นโอกาสในการพัฒนาของเด็กเสียเปล่า ๆ เพราะคอมพิวเตอร์ในโลกนี้มีแต่ Windows เท่านั้นที่ run บนเครื่องคอมพิวเตอร์

นอกจากนี้เธอยังได้เสนอแนะว่า แทนที่จะแจกจ่าย Linux พวกเขาควรจะติดต่อไปที่ Microsoft เพื่อรับบริจาค Windows version เก่า ๆ มาลงในคอมพิวเตอร์เพื่อให้เกิดประโยชน์จริง ๆ มากกว่า

โชคดีที่เรื่องนี้ไม่ได้เกิดในประเทศสารขันธ์ครับ

ที่มา: Digg, PC Pro, HeliOS Linux blog

Sunday, November 30, 2008

Default web browser สำหรับ Thunderbird

หลังจากที่แก้ปัญหา default mail สำหรับ Firefox ไปแล้ว คราวนี้ ลองมาแก้ปัญหาแบบตรงกันข้ามบ้าง คือ กำหนด default web browser ให้กับ Thunderbird ขั้นตอน ดังนี้

file ที่เก็บค่า preferences ของ Thunderbird จะอยู่ที่ $HOME/.mozilla-thunderbird/xxx.default/prefs.js (ค่า xxx จะเป็นตัวเลขสุ่ม)
เพิ่มบรรทัดต่อไปนี้เข้าไป

user_pref("network.protocol-handler.app.http", "mozilla-firefox");
user_pref("network.protocol-handler.app.https", "mozilla-firefox");

ทำการ restart Thunderbird ก็เป็นอันเรียบร้อย ต่อไปนี้เวลาคลิกที่ web link โปรแกรม Firefox ก็จะถูกเปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ

Saturday, August 30, 2008

Arthur C. Clarke's Laws

Arthur C. Clarke's Laws

1. When a distinguished but elderly scientist states that something is possible, he is almost certainly right. When he states that something is impossible, he is very probably wrong.
2. Discovering the limits of the possible requires venturing a bit into the impossible.
3. Any sufficiently advanced technology is indistinguishable from magic.

Sunday, August 17, 2008

สิ่งที่ Windows Mobile สอบตกในการเป็นโทรศัพท์

แม้ว่า Windows Mobile จะมี feature และโปรแกรมสนับสนุนมากมายทั้งในส่วนของการเป็น PDA/organizer และในส่วนของโทรศัพท์ ซี่งสำหรับในส่วนของโทรศัพท์นั้น แม้ว่า Windows Mobile จะมี feature เกี่ยวกับการใช้งานทางโทรศัพท์ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ mp3 ringtone, photo contacts, voice dialing แต่ในขณะเดียวกันก็ขาดความสามารถบางอย่างที่พบได้ในโทรศัพท์ทั่วไป ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่บางครั้งก็ทำให้เกิดความอึดอัดต่อการใช้งานได้ไม่น้อยเลย

สิ่งที่ Windows Mobile สอบตกในการเป็นโทรศัพท์

  • ความเสถียร ในฟังก์ชันการใช้งานโทรศัพท์ ที่ยังไม่น่าเชื่อถือ พร้อมจะ crash ได้ในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็น การรับสาย รับ sms ความเสถียรที่ทำให้ผู้ใช้บางคนหวาดระแวง ไม่รู้ว่าโทรศัพท์ตัวเองจะ hang เมื่อไหร่ ถ้าเทียบกับโทรศัพท์มือถือทั่วไป คงไม่มียี่ห้อไหนที่ hang ได้ทุกวัน หรือต้องทำการ soft reset ทุกวันหรือ 2 วัน จะไปโทษ 3rd party software อย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะแม้แต่ฟังก์ชันพื้นฐานอย่าง GPRS หรือ bluetooth ก็ยังต้องอาศัยการ soft reset เพื่อให้ function การทำงานกลับมาเป็นปกติ!
  • call screening แม้ว่าจะมีโปรแกรม 3rd party ที่ทำหน้าที่ filter เบอร์ incoming call อยู่จำนวนหนึ่งก็ตาม แต่ผู้ที่เคยใช้ก็จะพบว่า จะมีสัญญาณโทรเข้าดังขึ้นก่อนนิดหนึ่งก่อนที่ถูกตัดสายทิ้ง ซึ่งอาจจะไม่เป็นที่พึงประสงค์ในการใช้งาน
  • ความสามารถอีกอันหนึ่งที่หลายคนนึกไม่ถึงก็คือ การหยุดเสียง ringtone ในระหว่างที่มีสายเรียกเข้า โดยที่ไม่ต้องตัดสาย (ซึ่งในโทรศัพท์ทั่วไปสามารถทำได้โดยกดปุ่มใด ๆ ที่นอกเหนือไปจากปุ่มรับสายกับปุ่มวางสาย) สำหรับผู้ใช้ Windows Mobile มีทางเลือกสำหรับสายที่ไม่ต้องการรับอยู่เพียง 2 ทาง คือ ตัดสายทิ้ง หรือปล่อยให้โทรศัพท์ดัง ความลำบากใจจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราไม่อยากรับสาย แต่ก็ไม่อยากกดตัดสาย จะทำอย่างไร?
  • การบันทึกเสียงสนทนา ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่มีพร้อมในโทรศัพท์ทั่วไป แม้ว่า Windows Mobile จะสามารถบันทึกเสียงโดยทั่วไปได้ผ่านทางโปรแกรม Notes ได้โดยไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่มเติม แต่เมื่อจะบันทึกเสียงสนทนาแล้วล่ะก็จะเป็นเรื่องยากขึ้นมาทันที เพราะโดยตัว Windows Mobile เองไม่สามารถทำได้ และโปรแกรมที่จะมาทำหน้าที่ตรงนี้ ไม่มีมากนัก เท่าที่ทราบมีอยู่โปรแกรมเดียวที่สามารถทำได้ ซึ่งคุณภาพของเสียงที่บันทึกได้นั้นยังไม่น่าประทับใจเท่าไหร่
  • Auto redialing โดยตัว Windows Mobile เองไม่สามารถทำ auto redial หรือแม้แต่เลือกที่จะ redial ได้เมื่อพบกับสัญญาณ busy เมื่อมีการโทรออก แต่ปัญหานี้สามารถแก้ได้ไม่ยาก เพราะสามารถ download โปรแกรมมาติดตั้งลงในเครื่องได้ (Pocketmax Redial) แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ Microsoft กลับไม่ใส่ความสามารถนี้ลงไปใน OS

เรื่องเหล่านี้อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญสำหรับผู้ใช้บางคน เมื่อเทียบกับ feature ต่าง ๆ ที่ได้รับ แต่ในบางสถานการณ์อาจทำให้ความสะดวก หายไป และได้ความขัดใจมาแทนก็เป็นได้

Monday, August 11, 2008

ปัญหา Flash บน Firefox 3

ปัญหาของผู้ใช้งาน Firefox 3 บน Linux อันหนึ่งก็คือ การ load web ที่มี flash จำนวนมาก เพราะจะทำให้ Firefox ทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งพอเปิดหลาย ๆ หน้าต่าง หรือ หลาย tabs พร้อมกันแล้ว อาจจะทำให้โปรแกรมหยุดการตอบสนองไปเลย

บางครั้ง web site บางแห่งก็ใช้ Flash กันพร้ำเพรื่อเกินจำเป็น แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อประสบการณ์ในการดู web page นั้นเลย บางทีก็เป็นแค่โฆษณา ถ้าจะปิดทิ้งก็ไม่น่าจะเสียหาย เทียบกับโปรแกรม Flash บางที่ที่จะมีผลต่อการทำงานของหน้า web นั้น ๆ อย่างเช่น file uploader ทำให้การหักดิบด้วยการ uninstall Flash ออกไปอาจจะทำให้การใช้งานไม่สะดวกไปด้วย

มี add-on บน Firefox อยู่ 2 ตัวที่สามารถรับภาระจัดการกับ Flash ที่ไม่จำเป็นเหล่านี้ให้เรา โดยไม่ต้อง uninstall Flash ออกจากระบบ ก็คือ Flash Block และ Flash Killer

สิ่งที่ต่างกันระหว่าง add-on 2 ตีวนี้ก็คือ Flash Block มันจะทำการ disable Flash บน web ที่เราเปิดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราสามารถเลือก Flash อันใดอันหนึ่งให้กลับมาทำงานได้หลังจากที่ load web page หน้านั้นเสร็จแล้ว โดยการ click ที่พื้นที่ว่างส่วนนั้น และสามารถตั้ง white list สำหรับ web ที่อนุญาตให้แสดง flash ได้ ส่วน Flash Killer จะทำการหยุดการทำงานของ Flash หลังจากที่เราสั่งผ่าน Flash killer button บน navigational bar หรือ menu ถ้าต้องการให้หน้า web นั้นกลับมาแสดง Flash ใหม่อีกครั้งก็กด reload web page

สุดท้ายฝากถึงผู้ผลิตสื่อทั้งหลายว่าอย่าใช้ Flash มากเกินจำเป็น เพราะอาจทำให้เนื้อหาของท่านไปไม่ถึงมือผู้รับก็เป็นได้

Thursday, August 07, 2008

การผ่าท้องคลอด อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหอบหืดในเด็ก

นักวิทยาศาสตร์จาก University of California ได้รายงานถึงการค้นพบ ความแตกต่างของระบบภูมิคุ้มกันที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ ในช่วงแรกเกิด โดยทำการตรวจตัวอย่างเลือดที่ได้จากสายสะดือเด็กแรกเกิดโดยวิธีผ่าท้องคลอด (Cesarean section) จำนวน 50 คน และเด็กที่ตลอดโดยวิธีธรรมชาติ 68 คน โดยเด็กทั้งหมด มีพ่อ หรือแม่คนใดคนหนึ่งมีประวัติของโรคภูมิแพ้ หรือหอบหืด พบว่า เด็กที่คลอดโดยวิธีผ่าท้องคลอด มีจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิด regulatory T-cells น้อยกว่า และมีระดับของสารในระบบภูมิคุ้มกันอย่าง Interleukin-4 และ Interleukin-13 มากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่คลอดโดยวิธีธรรมชาติ

โดยเป็นที่ทราบกันดีว่า ระดับของ Interleukin-13 ในเลือด ที่เพิ่มขึ้น มีความสำคัญต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ และผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ และหอบหืดส่วนหนึ่งเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของเม็ดเลือดขาวชนิด regulatory T-cells

จากการค้นพบนี้คณะผู้วิจัยได้ตั้งสมมติฐานว่า วิธีการคลอดมีผลต่อปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งอาจจะเป็นคำอธิบายของการค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างการผ่าท้องคลอดกับโรค หอบหืดซึ่งมีการค้นพบมาก่อนหน้านี้

ที่มา Physorg,

Monday, August 04, 2008

ไต้หวันค้นพบกลไกของไวรัสไข้เลือดออก ที่อาจเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยช็อค

ตามความรู้เดิมที่มีอยู่คือ เชื้อ dengue virus ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดไข้เลือดออกนั้นมี 4 สายพันธุ์ด้วยกัน และไข้เลือดออกนั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อเข้าไปเป็นครั้ง ที่ 2 (secondary infection) ซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่าเกิดจากการกระตุ้นสาร cytokines ที่อยู่ในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมากเกินไป

ทีมนักวิจัยจากไต้หวัน จาก National Yang-Ming University ค้นพบกลไกที่เชื่อว่ามีส่วนทำให้เชื้อ dengue virus ทำให้ผู้ติดเชื้อเกิดอาการของไข้เลือดออก (dengue hemorrhagic fever) และช็อค (dengue shock syndrome) ขึ้นผ่านทางปฏิกิริยาระหว่างตัวเชื้อไวรัสเอง กับโมเลกุลที่มีชื่อว่า CLEC5A ที่อยู่บนเซลล์เม็ดเลือดขาว

จากการทดลองให้การรักษาหนูที่ติดเชื้อ dengue virus ด้วย antibodies ที่ขัดขวางการจับกันระหว่างเชื้อ dengue virus กับ CLEC5A พบว่าสามารถลดกลไกการกระตุ้นอาการอักเสบได้ แต่ก็ยังมีการอักเสบที่เกิดจากกลไกภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นตามปกติอยู่

แม้ว่าการค้นพบนี้จะเป็นเพียงการทดลองในสัตว์ทดลองก็ตาม แต่ก็เป็นการเปิดทางให้กับการคิดค้นวิธีการรักษาโรคไข้เลือดออก เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อไข้เลือดออกนี้ต่อไป

ปัจจุบันมีผู้ป่วยไข้เลือดออกที่เสียชีวิต 24,000 คน จาก 50 ล้านคน ต่อปี

ที่มา Physorg

Sunday, August 03, 2008

Librarything: Social network ของหนอนหนังสือ

web site social network ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ก็มีจุดเด่นในตัวเองต่าง ๆ กันไป ตั้งแต่การเชื่อมโยงผ่านทางคนรู้จักกันอย่าง Hi5, Multiply หรือเชื่อมโยงกันผ่านสื่อเฉพาะอย่าง เช่น รูปภาพผ่านทาง Flickr หรือเพลงที่ฟังผ่านทาง last.fm

ตอนนี้มี social network แบบใหม่ที่เปิดโอกาสให้หนอนหนังสือทำความรู้จักกันผ่านทางรายการหนังสือที่ตัวเองอ่าน โดย web site จะทำการเปรียบเทียบรายการในห้องสมุดของสมาชิกแต่ละคน ว่ามีความเหมือนกันมากน้อยแค่ไหน และมีระบบ recommendation สำหรับสมาชิกที่เป็นหนอนหนังสือแนวเดียวกันอีกด้วย

ส่วนรายชื่อหนังสือนั้น ทาง web site ได้ใช้ฐานข้อมูลของ Amazon และ Library of congress เป็นพื้นฐาน และยังมีฐานข้อมูลสนับสนุนจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย มีฐานข้อมูลสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ โดยสมาชิกสามารถเพิ่มรายชื่อหนังสือลงใน library ของตัวเองได้ผ่านทางการค้นหา ชื่อหนังสือ ชื่อผู้แต่ง ISBN ซึ่งถ้าหากไม่พบหนังสือในฐานข้อมูลใดเลย ก็ยังสามารถใส่รายละเอียดลงไปได้เองอีกด้วย จากการทดลองใช้งาน มีข้อจำกัดเรื่องหนังสือที่เป็นภาษาไทยอยู่ครับ เนื่องจากไม่สามารถหาชื่อหนังสือจากฐานข้อมูลที่มีอยู่ได้ แต่ไม่มีปัญหาเลยกับหนังสือที่มีรายชื่ออยู่แล้วใน Amazon

บริการอื่น ๆ ของ web site นี้ก็อย่างเช่น กระดานสนทนาแยกตามกลุ่มความสนใจ และประเภทของหนังสือ เพื่อให้สมาชิกมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

ผู้สนใจสามารถสมัครทดลองใช้ได้ฟรีที่ http://www.librarything.com/

อันนี้ catalog ของผมเอง

Friday, August 01, 2008

ความพยายามของมนุษย์ในการค้นหาสารที่มีคุณสมบัติทดแทนเม็ดเลือดแดงเข้าใกล้ความจริงมากขึ้น

วารสารทางการแพทย์ Journal of Trauma เดือนมิถุนายน ได้ตีพิมพ์เกี่ยวกับผลการใช้สารทดแทนเลือด ในระยะที่ 3 (Phase III) เป็นครั้งแรก

การทดลองนี้ นำโดย UCLA ทำการเปรียบเทียบการใช้สารทดแทนเลือด กับเลือดปกติที่ได้จากการบริจาค ในประเทศสหรัฐอเมริกา อัฟริกาใต้ และทวีปยุโรป เป็นเวลา 6 สัปดาห์ โดยมีผู้ป่วยเข้าร่วมในการวิจัยนี้เป็นจำนวน 688 คน ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเกี่ยวกับกระดูก (Orthopedic surgery) และจำเป็นต้องได้รับเลือด แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ได้รับเลือดตามปกติ 358 คน และกลุ่มที่ได้รับสารทดแทนเลือดนี้ 350 คน

สารทดแทนเลือด ที่มีชื่อว่า HBOC-201 นี้ ผลิตโดยบริษัท Biopure Corporation โดยทำการสกัดจากวัว ข้อดีของ HBOC-201 นี้คือ สามารถเก็บไว้ได้ 3 ปีที่อุณหภูมิห้อง และไม่จำเป็นต้องทำการตรวจความเข้ากันได้กับเลือดของผู้ป่วย (cross-matched)

การวิจัยครั้งนี้พบว่า การใช้ HBOC-201 สามารถลดความจำเป็นในการใช้เลือดลงได้ 59% โดยที่สามารถให้ผลการรักษาที่ดีได้ ในกลุ่มคนไข้ที่มีอายุน้อยกว่า 80 ปี

ส่วนผลข้างเคียงนั้น พบว่ามีอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่ได้รับ HBOC-201 (5%) เทียบกับ ผู้ป่วยที่ได้รับเลือด (3%) ในกลุ่มที่ต้องการเลือดปริมาณมาก (ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ) ส่วนความผิดปกติอื่น ๆ ที่ไม่เป็นอันตรายที่พบก็คือ สีผิวมีการเปลี่ยนแปลง ความดันเลือดสูงขึ้น และความผิดปกติของเอนไซม์ในเลือดบางชนิด

จากผลวิจัยนี้ ผู้วิจัยมีความเห็นว่า HBOC-201 นี้มีประโยชน์ในกรณีที่ไม่สามารถให้เลือดกับผู้ป่วยได้ เนื่องจากภาวะเม็ดเลือดแดงแตกจากระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ และผู้นับถือบางศาสนาที่ไม่สามารถรับเลือดจากผู้อื่นได้

ความพยายามในการคิดค้นสารทดแทนเลือด เกิดขึ้นจากความขาดแคลนเลือดในการใช้รักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ที่มา Journal of Trauma, Physorg

Thursday, July 31, 2008

KDE 4.1 บน [K]Ubuntu Hardy

หลังจากที่มีการประกาศตัวของ KDE 4.1 (http://kde.org/announcements/4.1/) เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตอนนี้ก็สามารถติดตั้งลงบน Ubuntu หรือ KUbuntu Hardy ได้แล้วครับ

ขั้นตอนการติดตั้ง

  • เปิด terminal
  • แก้ไขไฟล์ /etc/apt/sources.list ด้วยคำสั่ง

    sudo nano /etc/apt/sources.list

  • เพิ่มบรรทัด

    deb http://ppa.launchpad.net/kubuntu-members-kde4/ubuntu hardy main

    ลงไปที่ท้ายไฟล์
  • save และ exit
  • update repositories

    sudo apt-get update

  • Install KDE 4.1 package

    sudo apt-get install kubuntu-kde4-desktop

  • ระหว่าง install จะมีการให้เลือก Display Manager
  • เสร็จเรียบร้อยก็ทำการ logout และ login ใหม่ โดยเลือกเป็น KDE4 ในหน้า login manager ครับ
เท่าที่ลองใช้งาน ยังไม่พบปัญหาอะไรครับ เรื่องความเสถียรน่าจะดีขึ้นกว่า 4.0 ครับ ดูเรียบง่ายดี

สำหรับผมเอง ช่วยแก้ปัญหา ปุ่ม Alt-Shift ที่ไม่สามารถใช้สลับ keyboard layout ใน KDE 3.5.9 ไปด้วยครับ

Specifications v.s. User experience

เมื่อเราเลือกที่จะซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์สักชิ้น สิ่งที่เราจะมองหาสิ่งแรกก็คือ ส่วนประกอบของอุปกรณ์ชิ้นนั้น ๆ เช่น ถ้าหากเราจะซื้อคอมพิวเตอร์สักเครื่อง สิ่งที่จะต้องดูก็เป็น CPU, RAM, Harddisk, graphic card หรือถ้าเป็น PDA สักเครื่องก็คงไม่ต่างกัน ถ้ามองดูเผิน ๆ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่สามารถชั่งตวงวัด เปรียบเทียบกับรุ่นอื่นให้มองเห็นภาพได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อจะต้องเปรียบเทียบกับเงินที่เราต้องจ่ายไป

พักหลัง ๆ มานี้ผมเริ่มสงสัยว่า specification นี้เป็นเครื่องรับประกันถึงการใช้งานที่ดีกว่าเสมอไปหรือไม่ Macintosh และ iPod ของ Apple น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี เพราะถ้าหากเรานำ spec คอมพิวเตอร์ Macintosh มาเปรียบเทียบกับเครื่อง PC ทั่วไปแล้วเราก็จะพบว่า Macintosh นั้นมีราคาที่แพงกว่า ใน spec ที่เท่ากัน ทำให้ผู้ใช้จำนวนหนึ่งไม่สามารถผ่านกับดักราคาตรงนี้ไปได้ แต่ในขณะเดียวกัน Macintosh ก็ให้ user experience บางอย่างที่ในหลาย ๆ ครั้งสำคัญกว่า spec ด้วยซ้ำไป

แม้ว่าเราจะพบเห็นคำถามของผู้ใช้ใหม่ในเรื่องของการเลือกซื้ออุปกรณ์เหล่านี้อยู่เรื่อย ๆ และมักจะได้รับคำถามกลับจากผู้เชี่ยวชาญ ถึงลักษณะการใช้งาน แต่ท้ายที่สุดแล้วก็จะถูก specification (ซึ่งจะได้รับการบอกเล่าผ่านมาทางคนขาย) ดึงดูดไปในที่สุด อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาหนึ่ง จนกระทั่งได้มีโอกาสใช้งานจนได้เห็น ข้อดี ข้อเสียของทุกระบบแล้ว ผู้ใช้ส่วนหนึ่งก็จะพบว่าข้อเสียที่ตัวเองพบอยู่ทั้ง virus, trojan ความสวยงาม การตอบโจทย์ของลักษณะการใช้งาน และความติดขัดในการใช้งานนั้นสามารถกำจัดไปได้ โดยการเปลี่ยนมาใช้ Mac!

ในทำนองเดียวกันที่เกิดขึ้นกับการเลือกใช้ smart phone หรือ pda phone ก็เช่นเดียวกัน สิ่งที่เป็น feature หรือ specification ก็เป็นสิ่งที่เรามองเห็นได้ชัดเจนกว่าความสะดวกในการใช้งาน ที่อาจจะต้องใช้ประสบการณ์ และเวลาในการทดลองใช้หลาย ๆ ระบบจึงจะสามารถเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียของระบบปฏิบัติการ แต่ละตระกูลได้ เช่น 1st gen iPhone ที่ไม่สนับสนุนการใช้งาน MMS หรือ 3G ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการใช้งานสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม ในขณะเดียวกัน Windows Mobile ที่เต็มไปด้วย feature มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบ multitasking การใช้งาน multimedia และ connectivity สารพัดรูปแบบ แต่ก็ทำให้ผู้ใช้ส่วนหนึ่งต้องถอยกลับ เพราะปัญหาความยุ่งยากในการใช้งาน ความเสถียรของระบบปฏิบัติการ และหันกลับไปหาสิ่งที่ซับซ้อนน้อยกว่า แม้ว่าจะไม่ได้มี feature มากเหมือนกับ Windows Mobile ก็ตาม

พอลองมาดูในภาพที่ใหญ่ขึ้น เราจะพบพฤติกรรมในการใช้งานของคนในแต่ละประเทศต่างกันไปด้วย อย่างเช่น เครื่องที่มีความสามารถในการใช้งาน email และ text messaging อย่าง Blackberry กลับไม่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย ในขณะที่ความต้องการของผู้ใช้ในบ้านเรา ให้ความสำคัญกับความสามารถทางด้าน multimedia มาก่อน ดังนั้นโทรศัพท์ที่จะสามารถประสบความสำเร็จก็จะต้องมีความสามารถทางด้านนี้เป็นพื้นฐาน นั่นก็ทำให้ iPhone ที่มี feature ทางด้าน multimedia น่าตื่นตาตื่นใจสามารถประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องทำการตลาดแต่อย่างใด

ดังนั้นในความเห็นของผมสิ่งที่จำเป็นในการเลือกซื้อน่าจะเป็น ประสบการณ์ในการใช้งานที่ผ่านมา และการเรียงลำดับประสบการณ์การใช้งานที่ต้องการ มากกว่าการมองหาการรวมกันของ spec ที่สูงที่สุดหรือ มี feature ที่มากที่สุด ซึ่งอาจจะไม่ตอบสนองความต้องการของเราได้เสมอไปก็เป็นได้

Wednesday, July 30, 2008

ประสบการณ์ Upload รูปบน Multiply

ข้อจำกัดของการ upload รูปจำนวนมาก ๆ ขึ้นบน Multiply ก็คือ เครื่องมือที่ใช้ในการ upload รูปโดยตรงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ (เพราะต้องมานั่ง click Browse เพื่อเลือกไฟล์ที่ต้องการ upload ทีละรูป ซึ่งจะเสียเวลามาก ถ้าหากต้องการจะ upload รูปจำนวนมาก

โชคดีที่ Multiply เองสนับสนุน การดึงไฟล์รูปภาพจาก เว็บไซต์ Photo sharing อื่น ๆ มาได้โดยตรง ซึ่งสนับสนุนเว็บไซต์ Photo sharing ยอดฮิต อย่าง Flickr, Photobucket ด้วย ครั้งแรกที่ได้ทดลองใช้กับ Flickr ได้ผลดี สามารถดึงรูปออกมาได้หมด แต่ติดตรงที่ ข้อจำกัด free account ของ Flickr ที่ให้ limit แสดงรูปแค่ 200 MB หรือ 200 รูป เท่านั้น

เมื่อไม่นานมานี้ ได้ไปเจอเว็บไซต์ Photo sharing อีกแห่งนึง ที่สามารถ upload รูปไปเก็บไว้ได้ไม่จำกัด โดยไม่มีค่าใช้จ่าย คือ Shutterfly.com (รายได้ของเว็บไซต์นี้มาจากการสั่ง print ภาพถ่าย digital) ข้อดีของเว็บไซต์แห่งนี้ก็คือ มีเครื่องมือในการ upload ภาพที่ให้ความสะดวกแก่ผู้ใช้มากกว่า โดยเฉพาะเวลาที่ต้องการ upload ภาพจำนวนมาก เพราะผู้ใช้สามารถเลือกไฟล์ภาพหลาย ๆ ไฟล์พร้อมกัน จาก file selection dialog box ได้ โดยการ กด Ctrl หรือ Shift ค้างไว้ระหว่างที่ทำการคลิกเลือกภาพ ทำให้สามารถ upload ไฟล์ได้หลายไฟล์พร้อมกันในคราวเดียว แต่ก็ติดตรงที่การ share รูปภาพ ค่อนข้างยุ่งยาก เท่าที่หาวิธีได้คือ การส่ง invitation mail ไปให้กับคนที่เราต้องการ share แต่ไม่มี link ให้เอาไปแจกจ่ายให้ได้ง่าย ๆ

โชคดีที่ Multiply สนับสนุน การดึงรูปจาก Shutterfly ด้วยเช่นเดียวกัน แถมยังแยกเป็น album ให้เสร็จเรียบร้อยเหมือนที่จัดเอาไว้ใน Shutterfly พอดึงรูปมาเสร็จ ก็เอา link ไปแจกได้ง่ายกว่าครับ ทีนี้การ upload รูปปริมาณมากก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

สนใจสมัครใช้ Shutterfly ได้ที่ http://www.shutterfly.com/

Tuesday, July 29, 2008

โลกร้อน ทะเลเป็นกรด

ในการประชุม European Geosciences Union (EGU) ที่จัดขึ้นในกรุงเวียนนา เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้มีการเสนอผลของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่มีต่อภาวะความเป็นกรด-ด่าง (pH) ของน้ำทะเล

กลุ่มนักวิจัยภายใต้โครงการ European Collaborative Research (EUROCORE) ได้เสนอข้อมูลความเป็นกรดของทะเลที่เพิ่มมากขึ้น 30% นับตั้งแต่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นต้นมา จาก pH 8.2 เป็น 8.1 (เป็นกรดมากขึ้น) ซึ่งสัมพันธ์กับปริมาณก๊าซ CO2 ที่ถูกปล่อยออกมา ซึ่งความเป็นกรดระดับนี้ ไม่เคยมีมาก่อนในช่วง 35 ล้านปีที่ผ่านมา

แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานความเสียหายที่เกิดจากระดับความเป็นกรดของน้ำทะเล ที่เพิ่มขึ้นนี้ก็ตาม แต่ก็มีความกังวลว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อสาหร่ายทะเล และแพลงก์ตอนขนาดเล็ก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของระบบห่วงโซ่อาหารในทะเล และความเป็นกรดที่เพิ่มขึ้นนี้จะชลอการแข็งตัวของเปลือกของสัตว์ทะเล และปะการังต่าง ๆ ที่อยู่ตามชายฝั่งซึ่งที่สุดแล้ว ก็จะส่งผลต่อการดำรงชีวิตมนุษย์ทั้งในด้านแหล่งอาหาร และภัยธรรมชาติ

มีการคาดการณ์ว่า pH ของน้ำทะเลจะลดลงอีก 0.4 ภายในสิ้นศตวรรษนี้

คณะผู้วิจัยกล่าวว่าหนทางแก้ไขปัญหานี้ สามารถทำได้โดยลดปริมาณ CO2 ที่ถูกปล่อยออกสู่บรรยากาศ

ที่มา Physorg

Saturday, July 26, 2008

Noah Pro: Free dictionary บน PalmOS

ตอนที่ใช้งาน Pocket PC ก็ได้ใช้บริการ dictionary eng-eng ที่เป็น freeware ของ MDict พอเปลี่ยนกลับมาใช้ Palm OS ก็เลยต้องตามหา dictionary ที่เป็น freeware ดูเหมือนกัน

ที่จริงแล้ว โปรแกรม G-Softdic ที่แถมมากับโปรแกรม Thai-G นั้นก็ใช้งานได้ดี เพียงแต่ติดปัญหาตรงที่มันใช้ SysZlib.prc คนละ version กับที่โปรแกรม Skyscape ใช้ พอหลังจากติดตั้ง Skyscape ลงไปแล้วทำให้ G-Softdic ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งพอจะลง SysZlib ตัวของ G-Softdic ลงไปทับ ก็ปรากฏว่ามีปัญหาเรื่อง overwrite protection ด้วยปัญหาความไม่แน่ใจว่าการลง SysZlib ทับลงไปจะทำให้ Skyscape ใช้ไม่ได้หรือเปล่า ก็เลยกลับไปมองหา free dictionary อีกครั้ง

ไปเจอเอา Noah Pro ซึ่งแปรสภาพจาก shareware กลายเป็น freeware สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว โดยตัวโปรแกรมสามารถ download ได้ที่ Noah Pro web site ซึ่งใน zip file ที่ download มาจะมีไฟล์ database อยู่ 2 ขนาด คือ 1.7 MB และ 4 MB เลือกติดตั้งตัวใดตัวหนึ่ง ไปที่ card ก็สามารถทำงานได้ ซึ่งแน่นอนสามารถเลือกสลับใช้ระหว่าง database ชุดต่าง ๆ ได้

จากการทดลองดู เพียงแค่ file เล็ก คือ medium.pdb ก็มีจำนวน และรายละเอียดของคำศัพท์มากแล้ว

ส่วนหนึ่งก็เป็นที่น่ายินดีที่โปรแกรมดี ๆ แบบนี้ ได้รับการเผยแพร่ออกมาเป็น freeware แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับรู้ข่าวร้ายด้วยเหมือนกันด้วยว่า ผู้พัฒนาโปรแกรมนี้ ได้หยุดทำธุรกิจไปเสียแล้ว

http://noahpro.org/

Wednesday, July 23, 2008

ออสเตรเลียทำสถิติคนอ้วน แข่งกับอเมริกา

จากการสำรวจโดย Baker Heart Institute ของประชากรวัยผู้ใหญ่ในออสเตรเลียเมื่อปี 2005 พบว่า 70% ของผู้ชาย และ 60% ของผู้หญิงที่มีอายุในช่วง 45-65 ปี มีดัชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI) มากกว่าหรือเท่ากับ 25 (>25 = น้ำหนักเกิน, >30 = โรคอ้วน) ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าในอนาคตจะมีจำนวนผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคที่เกิดจาก ความอ้วน ทั้งโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคเข่าเสื่อม นี้เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

จากรายงานนี้ทำให้มีการรณรงค์ให้มีการลดน้ำหนักในระดับชาติ และให้งบประมาณสนับสนุนสำหรับสถานที่ออกกำลังกายอีกด้วย

ไม่รู้ว่าต่อไป จะมีประเทศในทวีปเอเชียเข้าแข่งกับเขาด้วยหรือเปล่า

ที่มา Physorg

Sunday, July 20, 2008

ใช้งาน Shortcuts บน Treo


หลังจากที่กลับมาใช้ Palm Treo อีกครั้ง สิ่งที่เจอว่าหายไปก็คือ การใช้ shortcut ซึ่งดูเหมือนว่า จะถูกลดระดับความสำคัญลงไปใน PalmOS 5 นี้ อาจจะเป็นเพราะว่า การ input ทำโดยผ่าน keyboard มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถใช้ shortcut ได้ผ่านทาง keyboard โดยการกด s แล้วตามด้วย alt ก็จะเห็นเครื่องหมาย shortcut ที่คุ้นเคยโผล่ขึ้นมา (หรือกดปุ่ม alt เฉย ๆ ก็ได้ เครื่องหมาย shortcut จะปรากฏอยู่ที่ท้ายสุดของรายการ)

แต่ใน Prefs ของ Treo นั้น ไม่มีหน้าจอสำหรับการเพิ่ม หรือแก้ไข shortcut ได้ ซึ่งเราสามารถนำกลับมาได้โดยการติดตั้ง file ที่แนะนำไว้ในกระทู้ของ Treocentral นี้ลงไป ก็จะได้เมนูสำหรับการแก้ไข Shortcut กลับคืนมา

นอกจากนี้ เรายังสามารถเพิ่มความสามารถของ shortcut ได้โดยการใช้โปรแกรม Shortcut5 เข้ามาช่วยได้ เนื่องจาก การใช้ input ผ่านทาง keyboard เป็นหลัก ดังนั้นการเรียก shortcut ของโปรแกรม Shortcut5 นี้จึงใช้ เครื่องหมาย . แทนการใช้ เครื่องหมาย shortcut เดิม ทำให้สามารถใช้งาน shortcut ได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งสามารถ download โปรแกรมได้ฟรี ซึ่งมีวิธีประยุกต์การใช้งานได้หลายแบบ ซึ่งมีเขียนอธิบายเอาไว้ใน manual แล้ว

สำหรับเทคนิคการใช้งาน shortcut แบบต่าง ๆ คุณศุภชัย (หาดใหญ่) อธิบายไว้อย่างละเอียดที่ http://www.mrpalm.com/board/view_board.php?id=36149

Thursday, July 17, 2008

เด็กอยู่ฟาร์ม ลดโอกาสเป็นโรคหอบหืด

เด็กที่อาศัยอยู่ในฟาร์ม มีความเสี่ยงในการเกิดโรคหอบหืดน้อยกว่า เด็กที่อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบอื่น ๆ เช่น แถบที่อยู่อาศัย ในเมือง หรือแม้แต่ เมืองชนบท

จากการสำรวจเด็กที่ไม่เป็นโรคหอบหืด ที่อายุน้อยกว่า 12 ปี จำนวน 13,524 คน ของ Canadian National Longitudinal Survey of Children and Youth (NLSCY) ที่ตีพิมพ์ลงใน Journal Respirology พบว่า อุบัติการณ์สะสมของการเกิดโรคหอบหืดของเด็กที่อยู่ในฟาร์ม มีเพียง 2.3% เมื่อเทียบกับ 5.3% ในกลุ่มที่อาศัยอยู่ชานเมือง และ 5.7% ในกลุ่มที่อาศัยอยู่ในเมือง

จากการค้นพบนี้ ทำให้ผู้วิจัยตั้งสมมติฐานว่า สิ่งแวดล้อมแบบฟาร์มส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายบางอย่างที่ส่งผลลด กลไลการอักเสบที่ทำให้เกิดโรคหอบหืดลงได้

ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการศึกษาในทำนองเดียวกันที่ประเทศออสเตรียเมื่อหลายปีก่อน

แต่เนื่องจากการศึกษานี้มีตัวแปรที่ไม่สามารถควบคุมได้อยู่เต็มไปหมด ทำให้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าให้ย้ายครอบครัวไปอยู่ในฟาร์ม

ที่มา BBC News, BBC News

Monday, July 14, 2008

ขั้วโลกเหนืออาจไม่มีน้ำแข็งเหลืออยู่ในฤดูร้อนปีนี้

เป็นที่ทราบกันว่า ปริมาณน้ำแข็งที่ขั้วโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลนั้น มีความหนาลดลงทุกปี ตามอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่เพิ่มขึ้น

นักวิจัยจาก National Snow and Ice Data Center มหาวิทยาลัย Colorado ได้แสดงความเป็นห่วงว่า ฤดูร้อนในปีนี้มีโอกาสเป็นไปได้ที่น้ำแข็งบนขั้วโลกเหนือจะละลายจนหมด เนื่องจากชั้นน้ำแข็งที่เคลือบผิวหน้าทะเลเอาไว้บางลงมากเป็นประวัติการณ์ โดยเป็นผลเนื่องมาจากปรากฏการณ์ Arctic Oscillation ทำให้อัตราการไหลของน้ำแข็งขั้วโลกลงสู่ทะเลเร็วขึ้น เหลือเพียงชั้นน้ำแข็งบาง ๆ อายุ 1 ปีเท่านั้น

ข้อมูลเพิ่มเติมจากภาพถ่ายดาวเทียมของ NASA ในเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าน้ำแข็งที่ล้อมรอบขั้วโลกเหนือนั้นลดลงเป็นอย่างมาก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเรื่องน้ำแข็งขั้วโลกก็แสดงความเป็นห่วงว่า โอกาสที่น้ำแข็งขั้วโลกเหนือจะละลายหมดมีถึง ครึ่งต่อครึ่ง หรือแม้แต่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ประมาณการณ์แบบอนุรักษ์นิยมแล้วก็ยังให้ โอกาสในการเกิดปรากฏการณ์นี้ถึง 1 ใน 4

และแม้ว่าปรากฏการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นในปีนี้ก็ตาม เราก็อาจจะได้เห็นในอนาคตอันใกล้นี้อยู่ดี

ขอตัวไปปิดไฟก่อนครับ

ที่มา Physorg

Saturday, July 12, 2008

ทำ Treo 680 เป็น GPRS Modem บน Linux

หลังจากที่ได้ทำ reverse DUN ระหว่าง linux laptop กับ Palm Treo 680 แล้ว คราวนี้ เป็นวิธีการทำ Treo 680 ให้กลายเป็น GPRS Modem กันบ้าง ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุด ที่ไม่ต้องหาโปรแกรมมาติดตั้งบน Treo เพิ่มเติมเลยก็คือ การใช้ bluetooth เชื่อมต่อแบบ dialup networking

  • Ubuntu 8.04 ได้มีการติดตั้งโปรแกรมสำหรับ ใช้งาน bluetooth เอาไว้แล้ว ในกรณีที่ไม่ได้มีการติดตั้งเอาไว้ก่อน สามารถทำการติดตั้งได้ผ่านทางคำสั่ง
apt-get install bluez-libs bluez-utils bluez-sdp bluez-pan
  • ทำการเปิด Discoverable mode ของ Treo 680
  • run คำสั่ง
hcitool scan
  • จด MAC address ของ Treo 680 เอาไว้
  • edit file /etc/bluetooth/rfcomm.conf
เพิ่มบรรทัด

rfcomm0 {
bind yes;
device <MAC address ของ Treo>;
channel 1;
comment "Treo 680";
}
  • restart bluetooth daemon โดยการ run
sudo /etc/init.d/bluetooth restart
  • ตรวจสอบดูใน /dev ว่ามีไฟล์ที่ชื่อว่า rfcomm0 อยู่หรือไม่ ถ้ายังไม่มี สามารถสร้างโดยใช้คำสั่ง
sudo mknod /dev/rfcomm0 c 216 0
  • เราจะสามารถ run คำสั่งเพื่อ bind port rfcomm0 ได้ทันทีโดยใช้คำสั่ง
sudo rfcomm bind /dev/rfcomm0 <MAC Address ของ Treo> 1
  • สร้างไฟล์สำหรับ connect dialup network (ในที่นี้ใช้ DTAC)
/etc/ppp/peers/dtac

-----------

connect '/usr/sbin/chat -vf /etc/chatscripts/dtac-connect-chat'

/dev/rfcomm0
-detach
debug
idle 900

nopcomp
noaccomp
nobsdcomp
nodeflate
noccp
novj
usepeerdns
defaultroute
ipcp-accept-local

noauth
lcp-echo-failure 4
lcp-echo-interval 65535



-------------

ไฟล์ /etc/chatscripts/dtac-connect-chat

-----------
SAY 'Starting GPRS connect script\n'
TIMEOUT 10
ABORT 'NO DIAL TONE' ABORT 'NO ANSWER' ABORT DELAYED
'' ATZ
OK 'AT+cgdcont=1,"IP","www.dtac.co.th","",0,0'
SAY 'Dialing...\n'
OK ATD*99***1#
CONNECT ' '

------------
  • เมื่อเสร็จเรียบร้อย พอต้องการต่อ GPRS กับ Treo ก็เพียงแต่ run คำสั่ง
pon dtac

อ้างอิง
https://help.ubuntu.com/community/BluetoothDialup


------
9/8/08 edited: หลังจากการใช้งานพบปัญหาเรื่อง ถูก disconnect ทุก ๆ 2 นาที จาก error message:

appear to have received our own echo-reply!
appear to have received our own echo-reply!
appear to have received our own echo-reply!
No response to 4 echo-requests
Serial link appears to be disconnected.

สามารถแก้ไขได้โดยเพิ่มบรรทัด

lcp-echo-failure 4
lcp-echo-interval 65535

ลงไปใน /etc/ppp/peers/dtac ครับ

Tuesday, July 08, 2008

Keyboard layout บน linux

เมื่อวันก่อน เอา laptop ไปต่อกับ LCD projector แล้ว ทำเอา screen resolution รวนไปหมด จนต้องงัดไม้ตายใช้คำสั่ง

dpkg-reconfigure -phigh xorg-xserver

หลังจากนั้น keyboard layout ที่เดิมเป็น dvorak ถูก reset กลับไปเป็น us keyboard ธรรมดา ทั้งในส่วนของ console และ kdm แต่ใน KDE ยังคงเป็น us-dvorak อยู่

หลังจากข้อมูลเกี่ยวกับ keyboard layout setting ใน Ubuntu ก็ได้ความว่า

/etc/default/console-setup

เปลี่ยนบรรทัด

xkbvariant="dvorak"

เป็นการเปลี่ยน keyboard layout ในส่วนของ console

ในส่วนของ kdm ต้องไปเปลี่ยนที่ไฟล์

/etc/X11/xorg.conf

ใน section

Section "InputDevice"
Identifier "Generic Keyboard"

บรรทัด
Option "XkbLayout" "dvorak"

แล้วทำการ restart xserver ใหม่

หรือถ้าไม่ต้องการ restart xserver สามารถทำได้โดย run คำสั่ง

setxkbmap dvorak

Tweets จาก Mars Phoenix Lander

หลังจากที่ได้ลงจอดบนพื้นดาวอังคารเป็น ที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ Mars Phoenix Lander สามารถส่ง tweets มายังแฟน ๆ ชาว twitter ที่สนใจติดตามข่าวสารได้แบบทันต่อเหตุการณ์ โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตาม Mars Phoenix Lander ได้ที่ twitter.com/MarsPhoenix

ที่จริงแล้ว ผลงาน tweets ของ Mars Phoenix Lander ที่ส่งมาเหมือนกับเป็นการเล่าเรื่องราวแบบบุคคลที่ 1 นี้ เป็นของ Veronica Mcgregor หนึ่งในสมาชิกของ Jet Propulsion Laboratory (JPL) ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานของ NASA ที่เป็นผู้ออกแบบ Mars Phoenix Lander นี่เอง (ไม่ได้ส่งมาจากดาวอังคารจริง ๆ)

ปัจจุบันมีผู้ติดตาม (followers) Mars Phoenix Lander นี้แล้วมากกว่า 10,000 คน ภายในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์

ขอเชิญชวนสาวก twitter ที่สนใจ follow MarsPhoenix กันครับ

ที่มา Twitter Blog, twitter.com/MarsPhoenix

Sunday, July 06, 2008

AIDA32 เรียกดู hardware information แบบครอบจักรวาล

เมื่อวันก่อน กลับไปมีปัญหากับ Windows อีกครั้ง เนื่องจาก เครื่อง Windows desktop ที่ทำงาน เพิ่งลง Windows ใหม่ไปไม่นาน มีความจำเป็นต้องใช้ระบบเสียง ก็เลยเพิ่งเจอปัญหาว่า sound card ไม่สามารถใช้ได้ เนื่องจาก Windows หา driver ไม่เจอ และข้อมูลที่ขึ้นจาก Device Manager ก็เห็นเป็นแค่ Audio Controller Device เท่านั้น spec ของคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นก็หาไม่เจอซะแล้ว

ถ้าเป็นการใช้งานบน linux ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะสามารถเรียกดูรายละเอียดของ hardware แต่ละตัวได้ โดยใช้โปรแกรม Hardware information หรือใช้คำสั่ง lshw

หลังจากที่ได้ search ดูก็พบกับ Freeware utility ที่ชื่อว่า AIDA32 เมื่อ download มาแล้วก็สามารถเรียกใช้งานได้ทันที หลังแตกไฟล์ โดยไม่จำเป็นต้อง setup แต่อย่างใด เราก็สามารถเรียกดูรายละเอียดของ hardware ที่อยู่ในเครื่องได้อย่างครบถ้วน แม้ว่าจะไม่ได้มีการติดตั้ง driver ของ hardware นั้น ๆ ลงไปก็ตาม ทั้ง model, chipset ของ motherboard ชื่อ รุ่น ID ของ CPU รายละเอียดของ integrated chipset ต่าง ๆ แน่นอน รวมไปถึง sound card chipset ที่ผมกำลังมองหาอยู่ด้วย เมื่อได้ ชื่อของ motherboard และ sound card แล้ว ก็ไม่เป็นปัญหาในการหา driver อีกต่อไป

นอกจากนี้โปรแกรมยังสามารถพิมพ์ report ของ hardware profile ในเครื่อง เพื่อนำไปใช้อ้างอิงในภายหลังได้

เท่าที่เข้าไปดูที่เวบไซต์ของผู้พัฒนาคาดว่า ขณะนี้โปรแกรมได้หยุดการพัฒนาไปแล้ว สามารถ download โปรแกรมได้ ผ่าน Softpedia และ mirror ที่ผม upload ไว้

Friday, July 04, 2008

กล้องอัตโนมัติตรวจจับการฝ่าไฟแดง (Red Light Camera): ใครได้ประโยชน์?

วันนี้ได้ยินข่าวในโทรทัศน์ว่า กำลังจะมีการนำเอากล้องอัตโนมัติสำหรับตรวจจับการขับรถฝ่าไฟแดง (Red Light Camera) แบบที่ใช้ในต่างประเทศมาใช้ในสี่แยกหลาย ๆ จุดทั่วกรุงเทพฯ แล้วก็ทำการส่งภาพถ่ายทะเบียนรถไปยังเจ้าของรถเพื่อเก็บค่าปรับครับ ดู ๆ ไปก็น่าจะมีประโยชน์ดี คนฝ่าไฟแดงน้อยลง มิใช่หรือ???

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีโอกาสอ่านการวิจัยของ Florida Public Health Review ที่เพิ่งออกมาใหม่ เป็นการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลการใช้ Red Light Camera ในรัฐฟลอริด้า รวมทั้งในที่อื่น ๆ ด้วย

ผลสรุปออกมาค่อนข้างน่าตกใจว่า
การใช้ Red Light Camera นั้นมีผลทำให้ เกิดอุบัติเหตุมากขึ้น โดย
เพิ่มอุบัติการณ์ของอุบัติเหตุชนกันมากขึ้น 16-40%
การชนกันด้านข้าง (angle crashes) เพิ่มขึ้น 20%
การชนท้าย (rear crashes) เพิ่มขึ้น 42%

สาเหตุที่อุบัติเหตุเพิ่มขึ้น ผู้วิจัยได้ให้เหตุผลว่า
คนขับเหยียบเบรคกะทันหัน เพราะไม่อยากเสียค่าปรับ (คันหลังเบรคไม่ทัน - ชน)
ประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งปฏิกิริยาการตอบสนองไม่เร็วเท่ากับคนอายุน้อย

ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมรัฐผู้ออกกฎระเบียบยังมีความต้องการนำ Red Light Camera มาใช้อยู่ ผู้วิจัยให้เหตุผลว่า รัฐรวยขึ้น จากการได้เงินค่าปรับมากขึ้น เพราะการฝ่าไฟแดงส่วนใหญ่ (เกือบ 80%) เกิดขึ้นในช่วงวินาทีแรกหลังการเปลี่ยนเป็นไฟแดง ซึ่งตาเปล่ามองไม่เห็น - ต้องตัดสินด้วยภาพถ่าย ตัวอย่างใน San Diego, California เก็บเงินจาก Red Light Camera ได้ $18 ล้าน ในเวลา 18 เดือน จนมีการนำไปสู่การกล่าวหาว่ามีการลดช่วงเวลาของไฟเหลืองลง เพื่อให้คนฝ่าไฟแดง (ผ่าแปด) มากขึ้น ในขณะเดียวกันการเก็บตัวเลขฝ่ายรัฐก็สามารถประกาศได้ว่า การฝ่าไฟแดงลดลง แต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นที่อู่ซ่อมรถ โรงพยาบาล และบริษัทเช่ารถ ไม่ได้ถูกนำมาคำนวณ

บริษัทประกันก็สนับสนุนการใช้ Red Light Camera ทั้ง ๆ ที่ทำให้มีอุบัติเหตุมากขึ้น เพราะว่า ถ้าอุบัติเหตุเกิดน้อยก็เก็บเบี้ยประกันภัยได้น้อย ยิ่งอุบัติเหตุเยอะ ยิ่งเก็บเบี้ยได้แพง

ในงานนี้ผู้วิจัยได้สรุปว่า การที่จะลดอุบัติเหตุได้ในระยะยาวนั้น ควรจะเป็นการแก้ไขด้านวิศวกรรมมากกว่า โดยเสนอแนะให้
พัฒนาความชัดเจนของระบบไฟจราจร สิ่งกีดขวางสายตา (อันนี้ กทม. ทำแล้ว -- อัจฉริยะ!)
ดูทิศทางของแสงแดดที่จะส่องเข้าตาผู้ขับขี่
กำหนดระยะเวลาของไฟเหลืองให้เหมาะสม (ไม่สั้นจนเกินไป)
เพิ่มช่วงเวลาหยุดพักสั้น ๆ หลังขึ้นไฟแดง
ป้ายเตือนบอกทางแยก
กำหนดระยะเวลาการเปลี่ยนไฟจราจรให้เหมาะสมกับสภาพจราจร

หลังจากที่ทำสิ่งเหล่านี้แล้วค่อยนำ Red Light Camera มาใช้ "ประกอบ" การพิจารณา

ไม่รู้ว่ามีผู้ใหญ่ในบ้านเราอ่าน blognone บ้างหรือเปล่า

ที่มา
ตามไปอ่านฉบับเต็มที่นี่: Red Light Running Cameras: Would Crashes, Injuries and Automobile Insurance Rates Increase If They Are Used in Florida? (pdf)

Wednesday, July 02, 2008

เคล็ดลับของการคุมน้ำหนัก: นอนให้พอดี

นักวิจัยการนอนได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยลงในวารสารการนอน (Journal Sleep) แสดงความสัมพันธ์ระหว่างน้ำหนักตัว กับระยะเวลานอนในแต่ละคืน โดยทำการวิจัยในกลุ่มประชากรที่มีอายุระหว่าง 21 ถึง 64 ปี จำนวน 276 คน โดยทำการชั่งน้ำหนักไว้ก่อนเริ่มทำการศึกษา แล้วทำการติดตามน้ำหนักตัวเมื่อเวลาผ่านไป 6 ปี

ผู้วิจัยพบว่า กลุ่มที่ใช้เวลานอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2 กิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับ กลุ่มที่นอน 8 ชั่วโมงต่อวัน และกลุ่มที่ใช้เวลานอนเกิน 9 ชั่วโมงต่อวันก็มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากขึ้นเฉลี่ย 1.58 กิโลกรัม

นอกจากนี้ผู้วิจัยยังพบอีกว่า คนที่นอนน้อยมีความเสี่ยงที่จะได้น้ำหนักตัวเพิ่ม 5 กิโลกรัมในเวลา 6 ปี เพิ่มขึ้น 35% ส่วนคนที่นอนเยอะเกินก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 25%

ผู้วิจัยสันนิษฐานว่าความสัมพันธ์ของน้ำหนักตัวกับระยะเวลาการนอนนี้ เกิดจากการนอนนั้นมีผลต่อวงจรการหลั่งฮอร์โมนที่มีความสำคัญต่อความรู้สึก หิวหรืออิ่ม

ใครว่านอนเยอะแล้วจะขึ้นอืด นอนน้อยก็ขึ้นอืดได้เหมือนกันครับ

ที่มา: บทคัดย่อ ของการวิจัย The Association Between Sleep Duration and Weight Gain in Adults: A 6-Year Prospective Study from the Quebec Family Study

Tuesday, July 01, 2008

Kanzius Machine: ความหวังใหม่ในการรักษาโรคมะเร็ง

CBS 13/4/51 รายการ 60 Minutes ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ Kanzius Machine ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นโดย John Kanzius นักประดิษฐ์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านคลื่นวิทยุ ผู้ซึ่งเคยล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukemia) ร่วมกับทีมวิจัยของศาสตราจารย์ Steve Curley แห่ง M.D. Anderson เพื่อใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง โดยไม่เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายของผู้ป่วย โดยอาศัยแนวคิด และวิทยาการทางด้าน nanotechnology ร่วมกับการใช้คลื่นวิทยุ

หลักการของ Kanzius Machine คือ การฉีดอนุภาคนาโนของทองคำที่มี antibody ที่เฉพาะเจาะจงกับเซลล์มะเร็งติดอยู่ด้วย เข้าไปในร่างกาย เพื่อให้อนุภาคขนาดเล็กเหล่านี้ไปจับกับเซลล์มะเร็ง ก่อนที่จะใช้คลื่นวิทยุเข้าไปสั่นสะเทือนอนุภาคนาโนเหล่านี้ ทำให้เกิดความร้อน และฆ่าเซลล์มะเร็งได้ในที่สุด

ปัญหาของแนวคิดนี้คือ จำเป็นต้องหาโมเลกุลที่มีความเฉพาะเจาะจงกับเซลล์มะเร็ง เพื่อให้อนุภาคนาโนเหล่านี้เข้าไปจับ และทำลายเฉพาะเซลล์มะเร็ง โดยที่ไม่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อปกติของร่างกาย ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันออกไปในเซลล์มะเร็งแต่ละชนิดด้วย

ขณะนี้การศึกษาค้นคว้ายังอยู่ในห้องทดลอง ซึ่งสามารถทำลายเซลล์มะเร็งที่ถูกฉีดอนุภาคนี้เข้าไป แล้วกระตุ้นด้วยคลื่นวิทยุได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อปกติที่อยู่ข้างเคียง ซึ่งผู้วิจัยคาดว่าจะสามารถเริ่มการทดลองด้านคลินิก (clinical trial) ได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า

ที่มา

Monday, June 30, 2008

ใช้ Internet บน Treo ผ่านทาง bluetooth ของ Ubuntu Linux PC

เนื่องจาก Palm Treo 680 นี้ไม่มี Wifi ให้เชื่อมต่อกับ internet ได้โดยตรง วิธีการที่สามารถจะเชื่อมต่อกับ internet ที่ประหยัด และสะดวกที่สุดก็คงเป็นการเชื่อมต่อผ่านทาง bluetooth ซึ่งตัว Palm Treo เองได้เตรียมเครื่องมือที่เรียกว่า DialUp Networking (DUN) เอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

โดยปกติ เรามักจะคุ้นเคยกับการที่ โทรศัพท์ทำตัวเป็นโมเต็ม เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมต่อกับ internet ได้ แต่ในกรณีนี้เป็นในทางกลับกัน นั่นก็คือ เราจะทำให้ Palm สามารถใช้ internet ได้โดยผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ PC ที่เชื่อมต่อ internet อยู่แล้ว ซึ่งเทคนิคอันนี้ เรียกว่า Bluetooth Reversed DUN

การทดสอบการใช้งานนี้ ทำบน Ubuntu Hardy กับ Palm Treo 680

ขั้นตอนที่ 1 ทำการเปิดช่องทางให้ Ubuntu สามารถรับ connection จาก Treo ได้

1. เปิดหน้าจอ terminal
2. พิมพ์คำสั่งดังต่อไปนี้ ทีละคำสั่ง

sudo echo 1 > /proc/sys/net/ipv4/ip_forward

sudo iptables -t nat -A POSTROUTING -o eth0 -j MASQUERADE

sudo iptables -A FORWARD -i ppp0 -j ACCEPT

sudo iptables -A FORWARD -m state --state ESTABLISHED,RELATED -j ACCEPT

โดยในคำสั่งบรรทัดที่ 2 ถ้าหากมีการเชื่อมต่อ internet ผ่านทาง network card ตัวอื่น ก็ให้เปลี่ยนจาก eth0 ตามความเหมาะสม อย่างเช่น ถ้าใช้ wireless lan ผ่านทาง wlan0 ก็ให้เปลี่ยนเป็น wlan0

3. ทำการค้นหา DNS server address ซึ่งโดยปกติจะอยู่ในไฟล์ /etc/resolv.conf

cat /etc/resolv.conf

หรือไม่ก็ใช้ openDNS address คือ 208.67.222.220 หรือ 208.67.222.222 ซึ่งจะนำไปใช้ในขั้นตอนต่อไป

4. สร้างไฟล์สำหรับ dund

sudo nano /etc/ppp/peers/palm

พิมพ์ข้อความด้านล่าง

--------
115200

192.168.2.1:192.168.2.2

local

ms-dns 208.67.222.222

noauth

debug

--------

ในบรรทัดที่ 4 สามารถเปลี่ยนหมายเลขเป็น DNS server address อื่น ที่จดมาในข้อ 3. ได้

5. ทำการ run dund โดยใช้คำสั่ง

dund --nodetach --listen --persist --msdun call palm

เป็นอันเสร็จขั้นตอนบน PC

ขั้นตอนที่ 2 สร้าง connection ใน Treo
  • ไปที่ Prefs -> Connection -> New
  • ใส่ Name ตามต้องการ เช่น Bluetooth to PC, Connect to PC, Via Bluetooth
  • ในช่อง Device สามารถเลือกให้เป็น trusted devices ถ้าเคย pair กันมาก่อนแล้ว หรือเลือกให้ค้นหาก็ได้
  • Tap ที่ปุ่ม Details, Speed 115,200, Flow ctl Automatic, OK
  • หลังจากนั้นออกมาที่หน้าจอ Prefs อีกครั้ง
  • เลือก Network -> Menu -> Service -> New
  • ใส่ชื่อตามต้องการ เช่น Ubuntu
  • เลือกชื่อ Connection ที่ได้สร้างเอาไว้ในขั้นตอนก่อน (Bluetooth to PC), OK
  • แล้วก็ทดลอง connect ถ้าทุกอย่างเป็นไปเรียบร้อยดี ก็จะเห็นความเคลื่อนไหวบนจอ terminal
สำหรับการตั้งให้ dund และการ config iptable เป็นไปโดยอัตโนมัติ ทุกครั้งที่ boot เครื่อง ทำได้โดยการสร้าง script ไว้ที่ /etc/init.d/

sudo nano /etc/init.d/start_bluetooth.sh
  • พิมพ์คำสั่งด้านล่าง
----------
#!/bin/bash

echo 1 > /proc/sys/net/ipv4/ip_forward

iptables -t nat -A POSTROUTING -o eth0 -j MASQUERADE

iptables -A FORWARD -i ppp0 -j ACCEPT

iptables -A FORWARD -m state --state ESTABLISHED,RELATED -j ACCEPT

killall -v dund

dund --listen --persist --msdun call palm
-----------
Save

  • เปลี่ยน permission เป็น root executable
sudo chmod 755 start_bluetooth
  • link ไปไว้ใน run level
sudo ln -s /etc/init.d/start_bluetooth /etc/rc2.d/S98_start_bluetooth

เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

อ้างอิง

help.ubuntu.com
http://www.newt.com/debian/treo650.html

มา upgrade Windows Vista กันเถอะ

ข่าวดีสำหรับ คนที่ใช้ Windows Vista นะครับ

ตอนนี้ Microsoft ได้ออก version upgrade ออกมาให้ผู้ใช้ Windows Vista สามารถ upgrade เป็น version ใหม่ที่มีความเสถียรสูงกว่า ทำงานได้เร็วกว่า ความยุ่งยากในการใช้งาน และส่วนของการติดต่อกับผู้ใช้ เข้าใจง่ายกว่า นอกจากนี้ยังสนับสนุน software และ hardware driver ต่าง ๆ ได้ โดยมีปัญหาน้อยมาก ๆ ครับ

มีคนทดลองลงดูแล้ว ผลน่าพอใจอย่างมาก ลองอ่าน review ที่นี่เลยครับ แนะนำ สำหรับผู้ใช้ Vista ทุกคน เพราะเป็น version upgrade ที่เสถียรมาก ๆ

ดีใจมากที่ Microsoft ออกโปรแกรมที่มีความเสถียรแบบนี้ให้ผู้ใช้ได้ใช้กันสักทีครับ

ที่มา:
Windows XP Coding Sanity
Vista SP1 RTM: Start Your Engines

คิดได้ยังไงเนี่ย

Friday, June 27, 2008

Convert Pdf เอาไปใช้บน Palm

ปัญหาของการนำไฟล์สกุล pdf ไปใช้บน PDA แม้ว่าจะมีโปรแกรมที่สามารถอ่าน native format ได้โดยตรงบน PDA ก็ตาม แต่เมื่อนำไปใช้งานจริงก็จะพบกับปัญหาขนาดของหน้าจอที่ไม่เหมาะกับการแสดงผลหน้าเอกสาร ทำให้เวลาเปิดเอกสารเหล่านี้จะต้อง scroll ซ้าย-ขวาตลอด

การใช้เอกสารที่เป็น text เพียงอย่างเดียว อย่าง plain text file หรือ palm document (.pdb) จึงสะดวกกว่าในบางกรณี

มีหลายวิธีด้วยกันที่เราสามารถนำ pdf file มาแปลงเป็น format ที่เหมาะต่อการอ่านบน palm ได้

1. Plucker สามารถแปลงไฟล์เป็น plicker format ได้โดยผ่านโปรแกรม plucker distiller ที่มีให้เลือกหลายตัวด้วยกัน แต่ปัญหาของ plucker นั้นก็คือ การแสดงผลภาษาไทยยังมีปัญหาอยู่มาก ปัญหาที่พบเป็นประจำ คือ พยัญชนะ ญ จะหายไป นอกจากนี้ยังต้องติดตั้งโปรแกรม plucker ลงบน PDA อีกต่างหาก แต่ข้อดีของวิธีนี้ คือ สามารถแปลงไฟล์ได้ในขั้นตอนเดียว และมีการทำงานเป็นแบบ graphic ซึ่งผู้ใช้คุ้นเคย

ดังนั้นถ้าหากข้อมูลที่ต้องการไม่มีภาษาไทยก็สามารถใช้ plucker ได้

2. ถ้าต้องการข้อมูลของ pdf ในรูปแบบของ plain text เพื่อนำไปใช้ในการแปลงเป็น format เฉพาะอื่น ๆ ก็สามารถ ทำได้โดยการใช้ Adobe Reader แล้ว select all ในส่วนของ text แล้วนำไป paste ใน Notepad ก็เป็นอันเสร็จ

สำหรับผู้ใช้ Linux ที่มีโปรแกรม pdf viewer อยู่แล้ว และไม่ต้องการติดตั้ง Adobe Reader ลงไปเพียงเพราะต้องการใช้ความสามารถ select all -> copy มี utility เล็ก ๆ ตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า pdftohtml ซึ่งติดมากับ Ubuntu โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่ม และทำงานบน terminal ซึ่งจะทำการแปลงไฟล์ pdf ให้กลายเป็น html ซึ่งสามารถนำไปแปลงต่อเป็น isilo format ได้

วิธีการใช้งานก็เพียงแต่ พิมพ์คำสั่ง

pdftohtml original_doc.pdf

ก็จะได้ไฟล์ html สำเร็จ ซึ่งถ้าหากต้องการทำให้เป็น text file ก็สามารถใช้ Firefox เปิดขึ้นมาแล้ว Save as ให้เป็น txt ได้

Thursday, June 26, 2008

Twerds

1. Tweet- A twitter message
2. Twoosh- a tweet that is exactly 140 characters
3. Twude- A guy on twitter. Twitter Dude.
4. Twerd- A word used mainly on twitter. Anything in this list.
5. Twat- Same in real world as on twitter.
6. Twarf- A single word tweet
7. Twerk- A jerk or asshole on twitter.
8. Tweetup- Meeting up offline with people from twitter.
9. Twup- Picking up someone via twitter. Also considered a Twup if done at a Tweetup.
10. Twugs- Various meaning depending on tweet. Either a thug on twitter, or reference to drug use on twitter.

Whatisnoise.com

Saturday, June 21, 2008

วันหมดอายุข้างกล่อง หรือประสาทสัมผัสของเราเอง?

สามวันก่อน....

ชงโกโก้เย็นทิ้งไว้ ใช้นมที่จะหมดอายุในสองวันถัดมา หลังจากนั้นก็ลืมทิ้งไว้ในตู้เย็น

เช้านี้....

เปิดตู้เย็น เจอโกโก้ที่ชงด้วยนมที่หมดอายุไปแล้ว 1 วัน

ลองชิมดู

รสชาติปกติ

ก็เลยกินจนหมด

ข้อสงสัยของผม ก็คือ เราจะเชื่อ วันหมดอายุ ที่เขียนเอาไว้ หรือว่าควรจะเชื่อประสาทสัมผัสของตัวเอง? ที่จริงแล้ววิวัฒนาการ ทำให้เรามีประสาทสัมผัสที่ทำให้มนุษย์และสัตว์รู้จักหาอาหาร ที่สามารถกินได้โดยไม่เป็นอันตราย รวมทั้งประสาทสัมผัสพิเศษ ที่ทำให้สามารถรับรู้ได้ถึงภัยธรรมชาติที่จะมาถึงล่วงหน้าได้

แต่เทคโนโลยีของมนุษย์ทำให้มนุษย์เชื่อในประสาทสัมผัสของตัวเองลดลง และให้ความสำคัญกับปริมาณ หรือตัวเลขที่ชั่ง ตวง วัด ได้มากขึ้น ถ้ามองจากมุมมองของวิวัฒนาการแล้ว ก็เหมือนกับว่า สัญชาตญาณบางอย่างของมนุษย์เริ่มจางหายไป

ปัญหาก็คือ ประสาทสัมผัสที่ธรรมชาติสร้างมาให้นั้น ก็มีจุดอ่อนอยู่ด้วยเหมือนกัน เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับสิงโตตาย เพราะกินเนื้อฮิปโป ที่ตายจากการกินยาฆ่าแมลงเข้าไป ทำให้เรารู้ว่าแม้แต่สัตว์ป่าที่ดำรงชีวิตอยู่ด้วยประสาทสัมผัสของตัวมันเองมาก ๆ ก็ยังไม่สามารถรับรู้ถึงสารพิษบางอย่างได้ โดยเฉพาะสิ่งสังเคราะห์ที่มนุษย์สร้างขึ้น!

Friday, June 20, 2008

IBM JVM: Java Virtual Machine บน Windows Mobile ที่แสดงผลภาษาไทยได้สมบูรณ์ที่สุด

โดยปกติแล้ว Windows Mobile สามารถนำโปรแกรมที่เขียนโดย Java ตัวอย่างเช่น GMail app และ Opera Mini มา run บน Windows Mobile ได้ โดยใช้ Java Virtual Machine (JVM) ที่มีออกมาหลายเจ้าด้วยกัน

ปัญหาสำหรับผู้ใช้คนไทยที่ทำให้ไม่สะดวกในการใช้โปรแกรม J2ME บน Windows Mobile ก็คือภาษาไทย ซึ่งจะมีปัญหาในการจัดเรียงสระ และวรรณยุกต์ส่งผลให้อ่านไม่ออก

JVM ที่มักจะติดมากับ ROM ก็เห็นจะมีอยู่ 2 ตัวก็คือ Intent Midlet Manager และ Esmertec Java ซึ่งจากการทดลองใช้พบว่า ทั้ง 2 ตัวมีปัญหาในการแสดงผลภาษาไทยต่างกันไป โดย Intent Midlet Manager สระจะลอยออกมาจากพยัญชนะ ส่วน Esmertec Java สระจะซ้อนกับตัวอักษรอื่น ๆ ในระนาบเดียวกันทำให้อ่านไม่ออก

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีโอกาสไปพบกระทู้ของคุณ happyman ที่ PDAMobiz.com ที่พูดถึง JVM อีกตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นของค่าย IBM หลังจากที่ได้ทดลองแล้วก็พบว่าเป็น JVM ที่สามารถแสดงภาษาไทยได้สมบูรณ์แบบที่สุดครับ สามารถแสดงระดับของสระ และวรรณยุกต์ได้ถูกต้องน่าประทับใจ

แม้ว่าจะมีความไม่สะดวกในการติดตั้งโปรแกรมอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วก็ใช้งานไม่ต่างกับ JVM ตัวอื่นครับ

download IBM JVM

Saturday, June 07, 2008

Install Google Gadgets บน Ubuntu ผ่าน repositories

หลังจากที่ให้ผู้ใช้ได้ทดลองความสามารถของ gadgets ต่าง ๆ บน iGoogle มาได้นานพอสมควร ตอนนี้ผู้ใช้สามารถนำเอา gadget ที่ชอบมาไว้บน desktop ของคนเองได้แล้ว และที่สำคัญคือ ผู้ใช้ linux สามารถใช้ gadget เหล่านี้ได้เช่นเดียวกัน ทั้งค่าย GNOME และ KDE เพราะใช้ Gtk library ในการพัฒนา

โดยเราสามารถ download source code ไป compile ได้เอง จากเวบไซต์ของ Google Gadgets แต่สำหรับผู้ใช้ทั่วไปอาจจะไม่คุ้นเคย

เราสามารถติดตั้ง Google Gadgets ผ่านทาง repositories ได้เช่นเดียวกัน โดยไม่ต้องเป็นห่วงเกี่ยวกับการ compile source

สำหรับ repository ที่ต้องใช้ก็คือ
http://ppa.launchpad.net/googlegadgets/ubuntu
ขั้นตอนก็เหมือนกับการเพิ่มรายการ repositories ทั่วไป (ทำผ่านโปรแกรมช่วยจัดการ package อย่าง Adept หรือ Synaptics ได้เช่นเดียวกัน)

  • เพิ่มบรรทัด
    deb http://ppa.launchpad.net/googlegadgets/ubuntu hardy main

    ลงไปในไฟล์ /etc/apt/sources.list
  • หลังจากนั้นก็ทำการติดตั้ง package โดยใช้คำสั่ง
    sudo apt-get update
    sudo apt-get install google-gadgets

เราจะสามารถเรียกใช้โปรแกรม โดยใช้คำสั่ง

ggl-gtk


ก็จะเห็นไอคอนปรากฏขึ้นมาบน tray เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

แก้ปัญหานาฬิกา reset ทุกครั้งที่เปลี่ยนแบตเตอรี่ใน Pocket PC

หลังจาก upgrade Dopod 818 Pro มาใช้ WM 6.1 ได้สักพัก ก็สังเกตว่ามีปัญหาเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่ แล้วนาฬิกาในเครื่องจะถูก reset กลับไปตั้งต้นใหม่ ในปี 2006 เกือบทุกครั้ง ซึ่งผมก็คิดว่ามันเป็นปัญหาทางต้าน hardware อาจจะเป็นแบตเตอรี่ backup เสื่อม มาตลอด

วันนี้มีโอกาสลองหาข้อมูลดู แล้วก็เจอว่าที่จริงแล้ว ไม่ใช่ปัญหาทางด้าน hardware แต่มีปัญหาทางด้าน software ด้วย

จาก xda-developer
quote มาจาก HTC site อีกที แต่หาต้นฉบับไม่เจอ

After removing and then reinserting the battery in certain devices that run Windows Mobile 5 or earlier version, the time setting is lost and reverts back to the factory default setting. If you encountered this problem, please download this patch and install it on your device to fix the problem.

ซึ่งใน ROM version 6.1 นี้ก็เป็นเหมือนกัน ที่ต้องทำก็เพียงแค่ install patch ลงไปบน device memory ก็เรียบร้อยครับ

download patch file ได้ที่นี่

Tuesday, June 03, 2008

AmaroK กับ Sansa Express

ปัญหาหนึ่งที่ผมเจอในการใช้งาน Sansa Express MP3 player นี่ก็คือเรื่องของการสร้าง playlist ครับ เท่าที่คู่มือแนะนำ คือ จำเป็นจะต้องสร้าง playlist จาก PC ที่ run Windows โดยผ่านโปรแกรม Windows Media Player

ที่จริงแล้ว เราก็สามารถสร้าง playlist บน Sansa Express (และ mp3 player อื่น ๆ) ได้จากบน Linux เช่นเดียวกัน โดยใช้ AmaroK วิธีการดังนี้
  • เมื่อเสียบ Sansa Express เข้ากับ USB port AmaroK จะ detect ว่ามี Media Device (ถ้าไม่ขึ้นให้ลองดูใน menu Settings -> Configure -> Devices)

  • ทำการเชื่อมต่อให้ AmaroK อ่านข้อมูล โดยการกด Connect
  • ที่ Devices tab จะมีรายชื่อเพลงปรากฏขึ้นมา
  • เราสามารถพิมพ์ search keyword ลงใน กล่องข้อความ เพื่อค้นหาเพลง หรือศิลปินที่ต้องการ
  • หลังจากนั้นก็ทำการเลือก highlight เพลงที่ต้องการ แล้วคลิกขวา เลือก Make Media Device Playlist
  • จะมี playlist ในชื่อ New Playlist ขึ้นมา ให้เปลี่ยนชื่อตามที่ต้องการ
  • พอเรียกดูใน เครื่อง จะพบไฟล์ playlist มีนามสกุลเป็น .zpl ซึ่งสามารถเรียกใช้ได้จาก เมนู playlist บนเครื่องเล่นได้เลย

Thursday, May 29, 2008

Audacity ไม่อ่านไฟล์!

เมื่อสองสามวันก่อนมีเหตุต้องไปบันทึกเสียงการบรรยายทางวิชาการ 2 วันติดกัน ตกวันละประมาณ 7 ชั่วโมง เนื่องจากอุปกรณ์อัดเสียงไม่ได้มีให้เต็มรูปแบบ ก็เลยต้องพึ่งเจ้า laptop ตัวเก่า ที่เพิ่งลง Ubuntu Hardy มาได้สักพัก ซึ่งก็พบว่า มีโปรแกรม Sound Recorder แถมมากับ distro ด้วย ก็เลยไม่ได้ลงโปรแกรม Audacity ใหม่

ตอนที่บันทึกเสียงชั่วโมงแรกผ่านไปทดลองเลือกเป็น ogg format ด้วยความคิดตอนนั้นว่าเป็น opensource format และขนาดไฟล์ที่ได้มีขนาดเล็กลง แต่ลืมคิดไปว่าความเร็ว CPU อาจจะไม่พอต่อการอัดและ encoding พร้อม ๆ กัน ผลที่ได้ก็คือ เสียงขาดหายไปประมาณ 90% เป็นอันว่า .ogg format ไม่ work

ก็เลยเปลี่ยนเป็นมาอัดเป็น lossless format แทน ซึ่งในโปรแกรม Sound Recorder มีให้เลือก 2 format ก็คือ .wav และ .flac ก็เลยตัดสินใจบันทึกมาเป็น .flac แทน วันแรกมีการหยุดบันทึกเป็นช่วง ๆ ได้ไฟล์ .flac ย่อย ๆ หลายไฟล์

วันที่ 2 รู้สึกจะยุ่งยากกับการวิ่งเข้าออกห้องควบคุม ก็เลยตั้งอัดยาวรวด 7 ชั่วโมง ตั้งใจว่าจะมาตัดต่อทีหลัง ใช้ .flac เช่นเคย หมดวัน ใช้พื้นที่ 4.4 GB

หลังจากนั้นก็ถึงขั้นตอนการทำ encoding ให้กลายเป็น mp3 และตัดต่อเอาเฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อหา โดยใช้โปรแกรม Audacity พอเริ่มเปิดไฟล์ สิ่งที่เจอปัญหาสิ่งแรกก็คือ Audacity ไม่สามารถอ่านไฟล์ .flac ได้!

ก็เลยต้องหาทาง convert .flac ให้กลายเป็นนามสกุลอื่นก่อน ที่คุ้นเคยดี และเป็น lossless เหมือนกัน ก็คือ .wav ผ่านทางคำสั่ง

flac -d <filename.flac> -o <filename.wav>

โล่งอก เพราะ Audacity สามารถเปิดไฟล์ที่แปลงเป็น .wav ของงานประชุมวันแรกได้อย่างไม่มีปัญหา

สำหรับวันที่ 2 ที่อัดยาว 7 ชั่วโมง ก็ใช้วิธีเดิม คือ convert จาก .flac เป็น .wav หลังจาก convert เสร็จพบว่า Audacity อ่านไฟล์ .wav ที่ convert เสร็จแล้วไม่ออก! แต่ทั้งไฟล์ .flac และ .wav สามารถเปิดได้จาก AmaroK เป็นปกติ

คิดไปคิดมาเอายังไงดี

ก็เลยหาวิธี convert ไฟล์เป็นนามสกุลอื่น ตัดสินใจเลือกเป็น .mp3 เสียก่อน ค้นดูใน net พบว่าการใช้ pipe สามารถรวบ output จาก flac ไปออกที่ lame ได้

flac -cd <filename.flac> | lame -h - <filename.mp3>

หลังจากนั้นก็เปิดไฟล์ .mp3 ด้วย Audacity .... Bingo! เปิดได้แล้วครับ รอดตัวไป

Monday, May 26, 2008

สิทธิ์ของผู้บริโภค Content

ปรากฏการณ์ของ digital media ทั้งหลาย ทำให้เราสามารถเข้าถึงสื่อต่าง ๆ ได้รวดเร็ว กว่าช่วงเวลาก่อนหน้านี้ก็จริง แต่ทำให้ผู้ผลิตสื่อ และเจ้าของสื่ออิเล็คทรอนิกส์เหล่านี้ ต้องเปลี่ยนมุมมองที่ผู้บริโภคสื่อเช่นเดียวกัน

ในสมัยก่อน ถ้าเราอยากอ่านหนังสือสักเล่ม หรืออยากฟังเพลง ก็เพียงแต่ไปที่ร้านขาย แล้วก็ซื้อมา หลังจากที่อ่านหนังสือจบแล้ว เราก็สามารถเอาไปให้เพื่อนอ่านต่อได้ โดยไม่รู้สึกว่า เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์เลย เช่นเดียวกับเพลงหรือภาพยนตร์ทั้งหลาย ที่เราสามารถแบ่งปันให้กับคนอื่นได้เช่นเดียวกัน

ในยุคที่สื่อการเก็บข้อมูลชนิดต่าง ๆ มุงหน้าสู่ความเป็น digital ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ทั้งในด้านของการดูแลรักษา ประหยัดเนื้อที่ในการเก็บ ข้อมูลไม่มีการเสื่อมคุณภาพ และที่สำคัญคือสามารถขนถ่าย ทำซ้ำ ได้ง่าย แล้วด้วยความง่ายของการทำซ้ำ และการแจกจ่ายนี่เอง ทำให้ผู้ผลิตสื่อ หรือเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ควรจะได้รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เหล่านี้หายไป

เป็นที่มาของเจ้าของลิขสิทธิ์ที่เริ่มกำหนด Digital Right Management (DRM) เพื่อป้องกัน (หรือทำให้ยาก) ต่อการทำซ้ำ ส่งผลให้เกิดการจำกัดการใช้งานของผู้บริโภคตามมา จนในบางครั้งลุกลามไปถึงความไม่สมเหตุสมผลของการปฏิเสธที่จะให้บริการแก่ผู้บริโภคที่นำผลิตภัณฑ์ไปใช้งานนอกเหนือจากที่กำหนด แม้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจะเป็นความผิดของผู้ผลิต โดยที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการดัดแปลง ๆ นั้น ๆ เลยก็ตาม ตัวอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือ HP ปฏิเสธที่จะรับผิดชอบ keyboard ของเครื่องคอมพิวเตอร์ laptop ที่เสีย เพราะว่าผู้ใช้เปลี่ยนระบบปฏิบัติการเป็น Linux แม้ว่า keyboard เสียจะเป็นปัญหาทางด้าน hardware ก็ตาม

สำหรับผู้ใช้ Digital music device ต่าง ๆ ถ้าได้มีประสบการณ์ในการซื้อเพลงออนไลน์แบบติด DRM ก็คงประสบปัญหากันบ้าง ทั้งเรื่องของข้อจำกัดในการติดตั้งเพลงลงบนเครื่องเล่น หรือแม้แต่การจำกัดจำนวนครั้งในการ download เพลง (ที่เราจ่ายเงินซื้อไปแล้ว!)

เมื่อไม่นานมานี้ Microsoft ได้ประกาศ web site จำหน่ายเพลงออนไลน์ใหม่ ในชื่อ Zune Marketplace โดยจะเข้ามาทำหน้าที่แทน web site เดิมอย่าง MSN Music โดยที่ประกาศว่า ผู้ใช้จะไม่สามารถสร้าง key ใหม่ เพื่อนำเพลงที่เคยจ่ายเงินซื้อไปแล้วบน MSN Music ไปใช้ต่อได้ เพื่อให้เพลงที่ขายบน Zune Marketplace ทำงานเข้ากันได้กับระบบเครื่องเล่นเพลงรุ่นใหม่เท่านั้น

web site ที่ขาย eBook อย่าง fictionwise.com ซึ่งแม้ว่าจะเสนอราคาขายที่ถูกกว่า (หรือเท่ากันกับ) หนังสือที่เป็นเล่มก็ตาม แต่ด้วยความง่าย และสามารถตัดต้นทุนในด้านของการขนส่งสินค้าออกไป ทำให้ราคาหนังสือโดยรวมแล้ว ถูกกว่าการซื้อหนังสือเป็นเล่ม แต่ด้วยข้อจำกัดของ DRM (หรือที่เขาเรียกว่า Secure ebook format -- secure = สำหรับคนขาย = ความยุ่งยากของผู้บริโภค) เพื่อป้องกันการแจกจ่ายไปที่อื่น ทำให้ผมรู้สึกว่า ที่จริงแล้ว การซื้อ ebook เหล่านี้ก็ไม่ได้มีต้นทุนที่ถูกนัก เพราะเราไม่สามารถแบ่งหนังสือเล่มนี้ไปให้คนอื่นอ่านได้ หรือแม้แต่การขายสิทธิ์ในการอ่านหนังสือเล่มนี้ไปให้คนอื่น (เปรียบได้กับการเอาหนังสือที่อ่านจบแล้วไปให้กับร้านหนังสือเก่า) ก็ไม่สามารถทำได้ นั่นเท่ากับว่า เราจ่ายเงินซื้อสิทธิ์ในการอ่านหนังสือเล่มนั้น สำหรับตัวเราคนเดียวเท่านั้นเอง

ล่าสุดก็มีกรณีที่เครื่อง Digital TV Recorder ที่ทำงานบน Windows Media Center บน Windows Vista ปฏิเสธการบันทึกรายการที่ผู้แพร่ภาพส่งสัญญาณ "ห้ามบันทึก" แนบมาด้วย แม้ว่าจะเป็นสิทธิ์ของผู้ผลิต hardware หรือ software ที่ทำหน้าที่บันทึก สามารถเลือกได้ว่าจะปฏิบัติตามหรือไม่ก็ได้โดยไม่ขัดต่อกฎหมายก็ตาม

ในอนาคต digital media ทั้งหลายก็จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งที่ตามมาก็คือ การที่เจ้าของเนื้อหาจะจำกัดวิธีการบริโภคสื่อนั้น ๆ ให้อยู่ในเฉพาะรูปแบบที่ตนเองต้องการ ในขณะที่ผู้บริโภคมีช่องทางการเข้าถึงสินค้าเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น แต่สิ่งที่เจ้าของเนื้อหาทำคือการสร้างกำแพงในการเข้าถึงสื่อเหล่านี้เสียเอง เราคงจะยังเห็นปัญหาที่เกิดจากการใช้ DRM เกิดขึ้นอีกมาก แต่อย่าลืมว่า ในสังคมที่มีผู้บริโภคอยู่เป็นจำนวนมหาศาล เราก็จะมีทางเลือกใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้บริโภคก็จะเป็นผู้ตัดสินความอยู่รอดของผู้ผลิตสินค้า

Monday, May 19, 2008

ความยืดหยุ่นของ Linux

วันนี้เพิ่งเขียนข่าวเกี่ยวกับ Linux distribution ที่มีชื่อว่า Splashtop ถูก scale ให้มีขนาดเล็กลงจนกระทั่งสามารถ จับใส่ไปใน หน่วยความจำของ motherboard ได้

ทำให้คิดถึงข้อดีของ linux ขึ้นมาอีกข้อหนึ่ง นั่นก็คือเรื่องความยืดหยุ่นของ linux เอง ซึ่งมีโครงสร้างที่ประกอบขึ้นจากการรวมส่วนย่อย ๆ หลายส่วน (modules) เข้าด้วยกัน ทำให้เราสามารถเลือกเอา modules เฉพาะที่เราต้องการมารวมกันสำหรับการทำงานบน hardware เฉพาะอย่างได้ โดยที่ไม่เปลืองพื้นที่หน่วยความจำมากนัก

ตัวอย่างอื่น ๆ ที่มีให้เห็น ก็คือเรื่องของระบบปฏิบัติการที่ติดตั้งลงบน เครื่อง mini laptop แบบ eee PC อย่าง Xandros ซึ่งตัดส่วนที่ไม่จำเป็นทิ้งไป ทำให้ส่วนของระบบปฏิบัติการที่เหลืออยู่มีขนาดเล็กลง ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น บน hardware ที่สร้างขึ้นเฉพาะอย่าง ในทางตรงกันข้าม เครื่อง supercomputer ขนาดมหึมา ก็มี linux เป็น OS ยอดนิยมเช่นเดียวกัน

ในอนาคต เราก็จะได้เห็น linux บน hardware ที่หลากหลายมากขึ้น ที่น่าจับตามองที่สุดก็คงเป็นระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์มือถืออย่าง android ซึ่งจะมาเป็นคู่แข่งกับ iPhone, Windows Mobile และ Symbian

Friday, May 16, 2008

Run Java โปรแกรม โดยตรงผ่านทาง shortcut


สำหรับคนที่ใช้ Esmertec Java ครับ เราสามารถสร้าง shortcut เพื่่อ run โปรแกรม java applet ได้ผ่านทาง command line โดย การสร้าง shortut ใหม่

command line ที่ใช้คือ

jbed -run s{x}_

โดย {x} แทนตัวเลข ซึ่งจะแทนโปรแกรม แต่ละโปรแกรม

วิธีทดสอบก็คือ ทดลองเปลี่ยนตัวเลขไปเรื่อย ๆ แล้วลอง run shortcut ดูจนกว่าจะได้โปรแกรมที่ต้องการ

ยังหาวิธีเดาตัวเลขให้ตรงกับโปรแกรมเยไม่ได้เหมือนกันครับ แต่คาดว่าหมายเลขที่สร้างขึ้นน่าจะมาจากลำดับการ install โปรแกรม

Wednesday, April 16, 2008

Twitter: What are you doing??

Twitter คือ อะไร?

Twitter เป็นบริการ social networking รูปแบบหนึ่ง (ทำนองเดียวกับ Hi5, Multiply และ Facebook) แต่มีจุดเด่นที่การสื่อสารผ่านทางข้อความสั้น (ไม่เกิน 140 ตัวอักษร) หรือที่เรียกว่า microblogging โดยเป็นการบอกเล่าว่า "What are you doing?"

ลองดูวิดีโอข้างล่างนี เข้าใจง่ายดีครับ



จุดเด่นของ Twitter?

Twitter มีช่องทางการสื่อสารให้เลือกหลายช่องทาง (web, email, SMS ผ่านทางมือถือ, instant messaging:GTalk, Jabber) ซึ่งสามารถส่งตรงถึงผู้รับได้ตามช่องทางที่กำหนด จึงสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลายแบบ เช่น รายงานข่าว ผลบอล sms บนมือถือ การแจ้งข่าว

ทำไมไม่ใช้ email หรือ group email ที่มีอยู่แล้ว?

ข้อจำกัดของ email คีอ ผู้รับต้องมาเปิด email ซึ่งความถี่ในการใช้งานขึ้นอยู่กับแต่ละคน ในบางสถานการณ์ การใช้ email อาจจะได้ผลน้อย เช่น
  • เย็นนี้จะไปกินอาหารญี่ปุ่น ใครจะไปบ้าง
  • บ่ายนี้เลื่อน conference เป็น 12.30 น. มีข้าวเลี้ยง
  • ER ยุ่งมาก ต้องการความช่วยเหลือลงเวรขาย 8-12 น.
  • เงินค่าเวรออกแล้ว
  • ข้อความบ่นอื่นๆ ที่ไม่ใหญ่พอจะตั้งเป็นหัวข้อ email ได้

เริ่มต้นใช้ Twitter
  • ไปสมัครได้ที่ http://www.twitter.com
  • ตั้งชื่อ account ตามต้องการ ใส่ email address

เปิดรับ SMS
  • login
  • ไปที่เมนู Settings -> Devices
  • ใส่เบอร์โทร พร้อมรหัสประเทศ เช่น 081 234 5678 ใส่เป็น +66812345678 จะได้รหัสมาชุดหนึ่ง
  • ใช้โทรศัพท์ ส่งรหัสที่ได้ ไปเบอร์ที่ให้ +447...
  • จะได้รับ sms ตอบกลับว่าใช้งานได้แล้ว

การ follow

ก็คือ การรับข้อความ เราอยากรับข้อความจากใครก็ไป follow คนนั้น ถ้าใครจะรับข้อความเขาก็ต้องมา follow เรา

การส่งข้อความ (Tweet)
  • พิมพ์ข้อความลงไปในกล่องกด update จะไปปรากฏใน public timeline (ทุกคนมองเห็น และจะได้รับข้อความ ถ้า follow เรา)
  • direct message คือการส่งข้อความเฉพาะบุคคล ไม่ปรากฏใน public timeline คนอื่นมองไม่เห็น ถ้าคนรับ ตั้ง device update เป็น on ก็จะได้ sms สรุปคือ ส่ง sms ไม่เสียเงิน ทำได้โดย ส่ง d <เว้นวรรค> ชื่อ <เว้นวรรค> ข้อความ
  • @replies เป็นการกำหนดข้อความถึงคู่สนทนา แต่ยังปรากฏใน public timeline ทำให้คนที่ follow เรา แต่ไม่ได้ follow คู่สนทนาของเรา ไม่ได้รับข้อความ
ยังมีการประยุกต์ใช้ Twitter ในหลากหลายรูปแบบด้วยกันครับ ไม่ว่าจะเป็นการพ่วงกับ RSS, feedburner, การายงานข่าว, การเขียนบันทึก ทำให้การใช้งานกว้างขวางออกไปอีกมากครับ

Monday, April 14, 2008

E-mail และ Text messages: ลด IQ มากกว่าสูบกัญชา

นักจิตวิทยา จาก University of London รายงานผลการวิจัยเกี่ยวกับการใช้งาน text messaging และ email ที่มีผลต่อ IQ (สนับสนุนโดย Hewlett Packard) โดยแสดงผลของภาวะ Infomania หรือการหมกมุ่นอยู่กับการส่งข้อความผ่านทางช่องทางอิเล็คทรอนิกส์ต่าง ๆ (Electronics Messaging) ซึ่งมีสิ่งที่ทำให้วอกแวกเข้ามาตลอด กลายเป็นปัญหาสำคัญของคนทำงาน โดยเฉพาะผู้ชาย สมองจึงถูกกำหนดให้เตรียมพร้อมรับหลากหลายเรื่อง ตลอดเวลา (always on) แต่มีสมาธิจดจ่ออยู่กับทางที่อยู่ตรงหน้าลดลง เป็นเหตุให้ IQ ลดลงแบบชั่วคราว

โดยการวิจัยนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรก มีผู้เข้าร่วมการทดสอบ IQ 80 คน ซึ่งผู้วิจัยพบว่า มีการลดลงของ IQ โดยเฉลี่ยประมาณ 10 จุด (มากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับการสูบกัญชา ซึ่งลดลงประมาณ 4 จุด ในขณะที่การอดนอนก็ทำให้ IQ ลดลง 10 จุด) ในส่วนที่ 2 เป็นการตอบแบบสอบถาม ซึ่งพบว่า 62% มีการ”เสพติด”การเช็คข้อความ และ e-mail ที่เกี่ยวข้องกับงาน แม้ว่าจะอยู่ที่บ้าน หรือในวันหยุด ครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้ยอมรับว่า ต้องตอบข้อความนั้น ๆ ทันที และ 1 ใน 5 จะหยุดการพบปะ หรือการประชุมเพื่อตอบข้อความ ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวม

ในงานวิจัยนี้ผู้วิจัยได้ให้คำแนะนำแก่องค์กรที่มอบหมาย handheld communication device ให้แก่พนักงานว่า ควรกำหนด “แนวทางการใช้งาน” ให้แก่ผู้ใช้ เพื่อป้องกันการเปิดภาวะ online 24 ชั่วโมง

ตอนนี้มีเทคโนโลยีที่ทำให้เราติดต่อกันได้เร็วและง่ายขึ้นเสียด้วย ว่าแต่เจ้า Twitter นี่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาชั้นดีเลยหรือเปล่าครับ?

ทีมา: Why texting harms your IQ - Times Online

Friday, April 11, 2008

เพิ่ม battery icon บน Today page แบบไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม

ได้มีโอกาส upgrade เป็น Windows Mobile 6.1 บนเจ้า Dopod 818 Pro ตัวเก่า โดยใช้
WM6.1Prophet ShadoW 2.0 CE - xda-developers Pocket PC ตัวเก่าก็ได้ OS ตัวใหม่แบบไม่มีปัญหาเลยครับ แต่ติดอยู่อย่างหนึ่งตรงที่ไม่มี battery icon ให้เห็นชัด ๆ อยู่ตรงไหนเลย ก็เลยพยายามจะหาโปรแกรมที่จะแสดงระดับแบตเตอรี่บนหน้าจอได้สะดวก ๆ

ก็พบว่าที่จริงแล้ว ไม่ต้องลงโปรแกรมอะไรเพิ่มครับ เพราะเจ้า \Windows\powertray.exe ติดมาอยู่ใน rom อยู่แล้ว ก็เพียงแต่ run ก็จะได้ battery tray icon บน Today page แล้วครับ ถ้าต้องการให้เปิดโปรแกรมทุกครั้งที่ reboot ก็เพียงแต่สร้าง shortcut เอาไว้ที่ \Windows\Startup เท่านั้นเองครับ

ที่มา:
Battery Tray Icon [Archive] - xda-developers

Wednesday, April 09, 2008

ฤทธิ์ยาแก้ปวด: ยิ่งแพงยิ่งหายปวด

ในท้องตลาดเรามักจะเห็นยาแก้ปวดหลากหลายชนิด มีราคาต่างกันออกไปตามความเก่าใหม่ของยา ส่วนใหญ่ยาที่ออกมาใหม่ ๆ มักมีราคาแพงกว่ายาที่ใช้มาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งบริษัทยาก็โฆษณาว่า ยาตัวใหม่สามารถแก้ปวดได้ดีกว่ายาตัวเก่าเสมอ

ในวารสาร Journal of The American Medical Association ฉบับวันที่ 5 มีนาคม 2008 ได้ตีพิมพ์การศึกษาเกี่ยวกับฤทธิ์การแก้ปวดกับราคายาที่คนไข้รับรู้ โดยทำการศึกษาในคนปกติ 82 คน โดยครึ่งหนึ่งให้กินยาหลอกที่ไม่มีผลใด ๆ ต่อการลดอาการปวด (Placebo = เม็ดแป้งธรรมดา) โดยได้รับข้อมูลว่าเป็นยาแก้ปวดขนานใหม่ที่มีราคา $2.50 ส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็ให้กินยาหลอกตัวเดียวกัน แต่บอกว่า ยาถูกลดราคาลงมาเหลือ $0.10 แล้วนำกลุ่มทดลองทั้งสองกลุ่มไปทดสอบให้คะแนนระดับความเจ็บปวด (visual analog scale) ตั้งแต่ 0 (ไม่ปวดเลย)-100 (ปวดมากที่สุด) โดยการช็อตด้วยไฟฟ้าในปริมาณที่มากขึ้นเรื่อย ๆ จนทนไม่ได้

ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มที่รับรู้ว่ายาแก้ปวดมีราคา $2.50 สามารถลดระดับความเจ็บปวดหลังจากกินยาได้ 85.4% ในขณะที่กลุ่มที่รับรู้ว่ายามีราคา $0.10 ลดระดับความเจ็บปวดลงได้เพียง 61%

การวิจัยนี้ผู้วิจัยก็เลยสรุปผลว่า การรักษาความเจ็บปวดนั้นจะได้ผลดีหรือไม่ส่วนนึงขึ้นอยู่กับความคาดหวังของ คนไข้ ซึ่งก็เป็นไปตามความเชื่อที่ว่ายาที่แพงกว่าจะมีฤทธิ์แก้ปวดที่ดีกว่า ทำให้เรามีแนวโน้มจะหันไปหายาแพง ๆ ที่ออกมาใหม่ ๆ มาใช้รักษาอาการปวด และบริษัทผู้ผลิตยาก็สามารถขายยาใหม่ได้เรื่อย ๆ ในราคาที่สูงกว่ายาเก่า

ที่มา:
Commercial Features of Placebo and Therapeutic Efficacy Rebecca L. Waber; Baba Shiv; Ziv Carmon; Dan Ariely JAMA. 2008;299(9):1016-1017.
จาก Journal of The American Medical Association


Sunday, April 06, 2008

QWERTY vs Dvorak keyboard layout


เคยสงสัยกันบ้างไหมครับ ว่า Keyboard layout ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้มีที่มาอย่างไร? ทำไมถึงต้องมีการเรียงตัวอักษรบนแป้น keyboard แบบนี้ด้วย?

ที่จริงแล้ว keyboard layout ภาษาอังกฤษ ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย หรือที่รู้จักกันในชื่อ QWERTY นั่นถือกำเนิดขึ้นในทศวรรษที่ 1860s โดยนักประดิษฐ์ที่มีชื่อว่า Christopher Scholes ผู้ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ดีด (typewriter) ขึ้นเป็นคนแรก โดยในการประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ดีดรุ่นแรก ๆ นั้น แป้นพิมพ์ถูกเรียงตามลำดับของตัวอักษร ระบบการทำงานของเครื่องพิมพ์ดีดยุคแรกนั้น เมื่อผู้ใช้ทำการกดแป้นพิมพ์เครื่องก็จะดีดแท่นโลหะเข้าไปกระทบกับกระดาษเกิดเป็นตัวอักษรขึ้นมา การเรียงแป้นพิมพ์แบบนี้จึงมีปัญหาเกิดขึ้นตามมาในกรณีที่คนพิมพ์ กดแป้นพิมพ์ตัวอักษรที่อยู่ใกล้กันในช่วงเวลาที่ติด ๆ กัน แถบโลหะของแป้นพิมพ์ที่ถูกกดก่อน ยังไม่กลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิมก็จะไปขัดกับแถบโลหะของแป้นพิมพ์ใหม่ที่ถูกกด สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ ผู้ใช้ต้องหยุดพิมพ์เพื่อเอาแถบโลหะที่ขัดกันอยู่กันออกด้วยตัวเอง

คุณ Christopher Scholes และทีม จึงได้ทำการออกแบบแป้นพิมพ์รุ่นใหม่ขึ้นมา โดยอิงอยูบนพื้นฐานที่ว่าเอาแป้นที่มีโอกาสจะถูกพิมพ์ในช่วงใกล้ ๆ กันให้ออกไปห่างจากกัน เพื่อที่จะได้ไม่เกิดการพันกันของแท่นโลหะในระหว่างการพิมพ์ โดยอาศัยความรู้สึกของผู้ออกแบบเป็นหลัก ไม่รู้จะเรียกว่าโชคร้ายได้หรือเปล่า ที่วิธีการเลือกว่าแป้นพิมพ์อันไหนควรจะอยู่ทางด้านซ้ายหรือด้านขวาของคนพิมพ์นั้น ไม่ได้อยู่ในพื้นฐานของการออกแบบ QWERTY keyboard layout นี้เลยครับ ส่วนทำไมแป้นพิมพ์แถวบนสุดถึงต้องเป็น QWERTYUIOP น่ะหรือครับ? ก็ด้วยเหตุผลที่ว่า ตัวพิมพ์แถวบนแถวเดียว สามารถพิมพ์เป็นคำว่า 'typewriter' ได้นั่นเอง! ส่วนตัวพิมพ์ในแถวกลางหรือคีย์เหย้า (home key: ASDFGHJKL) ทั้งหลาย ก็เกิดจากส่วนที่เหลือของการหยิบตัวอักษรไปใส่ไว้ในแถวแรกครับ

keyboard layout แบบ QWERTY จึงถือกำเนิดขึ้นในที่สุด ซึ่งสิทธิบัตรของ QWERTY keyboard layout นี้ก็ถูกซื้อไปโดย Remington บริษัทผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ดีด ยักษ์ใหญ่ (บริษัทเดียวกับที่ผลิตปืนขายนั่นล่ะครับ)

ดังนั้นเราพอจะสรุปได้ว่า QWERTY keyboard layout แท้ที่จริงแล้ว มีต้นกำเนิดมาจากการตอบสนองแต่ปัญหาทางด้านกลไลของเครื่องพิมพ์ดีดในยุคแรกนั่นเอง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นที่ผมเล่าให้ฟังนี้เราคงไม่ค่อยพบเห็นกันแล้วในปัจจุบันครับ เนื่องจากแป้นพิมพ์ที่เราใช้กันอยู่เป็นแป้นพิมพ์สำหรับคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่มีระบบการทำงานของแป้นโลหะเหลืออีกต่อไปแล้ว

ทีนี้เรามาว่าในรายละเอียดของเจ้า QWERTY layout นี้ว่ามันยังออกแบบได้ไม่สมบูรณ์อย่างไร

เนื่องจากคนที่ออกแบบ QWERTY นี้ใช้ความรู้สึกของตัวเองเป็นหลัก และไม่ได้คำนึงถึงการใช้มือสองข้างในการพิมพ์มากนัก ทำให้เราไม่สามารถใช้วิธีการพิมพ์สัมผัสแบบใช้ 2 มือได้อย่างเต็มที่ เพราะกลายเป็นว่าคำในภาษาอังกฤษ นับพัน ๆ คำจะถูกพิมพ์โดยใช้มือซ้ายเพียงข้างเดียว ในขณะที่มีเพียงไม่กี่ร้อยคำเท่านั้น ที่จะถูกพิมพ์ด้วยมือขวาเพียงข้างเดียว ทำให้ผู้ใช้ที่ถนัดขวา จะต้องใช้มือข้างที่ไม่ถนัดในการพิมพ์คำเหล่านี้ ยังไม่นับรวมถึง คำที่ใช้สองมือพิมพ์ แต่ตัวอักษรที่ประกอบติดกันอยู่ภายในคำนั้น ๆ ถูกพิมพ์โดยมือข้างใดข้างหนึ่งติดกันหลาย ๆ ตัว (เช่นคำว่า team เป็น ซ้าย ซ้าย ซ้าย ขวา) ส่งผลให้ความเร็วในการพิมพ์นั้นลดลง

ทีนี้ ความเร็วที่ว่าลดลงนั้น ลดลงแค่ไหน? ทดลองดูง่าย ๆ โดยใช้นิ้วชี้ของมือใดมือหนึ่งของคุณเคาะลงบนโต๊ะให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วลองเทียบกับ การใช้นิ้วชี้ของมือทั้งสองข้างเคาะสลับกันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ดูสิครับ

ปัญหาการพิมพ์นี้ถูกค้นพบในเวลาต่อมา ในปี ค.ศ. 1930 โดยนักจิตวิทยาการศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ชื่อ Dr. August Dvorak ที่ทำการศึกษาภาวะเมื่อยล้าของผู้ที่ใช้เครื่องพิมพ์ดีดเป็นเวลานาน ๆ หลังจากที่เครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้า (ซึ่งไม่มีปัญหาเรื่องการพันกันของแท่นโลหะอีกต่อไป) เริ่มมีการใช้งานแพร่หลายมากขึ้น

Dr. Dvorak จึงมีความคิดที่จะพัฒนา keyboard layout แบบใหม่ โดยมีหลักการเพื่อให้สามารถใช้ มือสองข้างสลับกันพิมพ์ตัวอักษรให้ได้มากที่สุด ใช้มือขวามากกว่ามือซ้าย ตัวอักษรที่พิมพ์บ่อย อยู่ใกล้แป้นเหย้ามากที่สุด ใช้ประโยชน์จากนิ้วที่แข็งแรงกว่าให้มากกว่า รวมไปถึงลักษณะการพิมพ์ที่เร็วกว่าโดยการใช้การกดแป้นไล่เรียงมาจาก ด้านนอกเข้าสู่ด้านใน (inboard stroke flow) ซึ่งในที่สุดจากการศึกษาทางด้านคำศัพท์และการพิมพ์มาอย่างโชกโชน Dvorak keyboard layout ก็ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1932

เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่แม้ว่าจะมีหลักฐาน เหตุผลของการพัฒนา keyboard layout แบบใหม่นี้ขึ้นมาสนับสนุน แต่ในยุคที่คอมพิวเตอร์ยังไม่เป็นที่แพร่หลายนั้น ก็ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่า การใช้ Dvorak layout นี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการพิมพ์ได้มากขึ้นจริง ๆ ประกอบกับสไตล์การพิมพ์สัมผัสของ QWERTY layout นี้ก็มีกลุ่มผู้ใช้อยู่อย่างหนาแน่น โรงเรียนสอนการพิมพ์ดีดทั้งหลาย ก็เปิดสอนเทคนิคการพิมพ์สัมผัสบน QWERTY keyboard อย่างแพร่หลาย บริษัทผู้ผลิตก็ผลิตเครื่องพิมพ์ดีดที่ใช้ QWERTY layout ออกมาจนติดตลาดไปทุกหนทุกแห่ง ท่ามกลางกระแสของ demand-supply ที่เกิดขึ้น ทำให้พื้นที่ที่ Dvorak keyboard นี้จะแจ้งเกิดเป็นไปได้อย่างจำกัด และก็ไม่สามารถทำให้เป็นที่นิยมแพร่หลายได้ดังที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน และพื้นฐานของการใช้งาน QWERTY layout ก็ส่งอิทธิพลไปถึงการใช้งานคีย์บอร์ดบนคอมพิวเตอร์ด้วย ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดก็คือ keyboard shortcut สำหรับฟังก์ชัน Edit ที่ใช้กัน นั่นก็คือ Cut (Ctrl-x), Copy (Ctrl-C) และ Paste (Ctrl-v) ซึ่งทั้งสามแป้นนี้อยู่ติดกันบน QWERTY แต่อยู่ห่างจากกันใน Dvorak

อย่างไรก็ตามก็ยังมีคนอยู่จำนวนหนึ่งที่ได้มีโอกาสทำความรู้จักกับ Dvorak keyboard layout นี้ และไม่ลังเลที่จะนำมันมาใช้งาน ทำให้ในปัจจุบัน Dvorak layout ยังคงอยู่ในกลุ่มผู้ใช้เล็ก ๆ จำนวนหนึ่ง ณ วันนี้ ข้อสงสัยเรื่องของประสิทธิภาพถูกพิสูจน์ในที่สุด เมื่อคอมพิวเตอร์เริ่มเป็นที่แพร่หลาย จึงได้มีการนำเอาประสิทธิภาพของ keyboard layout ทั้งสองอันนี้มาเปรียบเทียบกัน โดยจำลองสถานการณ์การพิมพ์ดีด และวัดผลในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เปรียบเทียบการใช้มือซ้ายเทียบกับมือขวา จำนวนตัวอักษรที่ติดกันที่ถูกพิมพ์ด้วยมือข้างเดียวกัน การกระโดดขึ้นกระโดดลงของนิ้วมือ ระยะทางที่นิ้วมือต้องเคลื่อนที่ออกจากคีย์เหย้า ซึ่งก็พบว่า Dvorak keyboard มีประสิทธิภาพดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบตามกติกานี้ครับ

สำหรับผู้ที่สนใจเปลี่ยนมาใช้ Dvorak keyboard สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
DvZine.org มีสื่ออธิบายความเป็นมา รวมทั้งแบบฝึกหัดการพิมพ์ Dvorak
Wikipedia: Dvorak Simplified Keyboard

วิธีการเปลี่ยน keyboard layout บน OS ต่าง ๆ

เปรียบเทียบประสิทธิภาพของ layout ต่าง ๆ
QWERTY layout VS Dvorak layout
โดยใช้บทประพันธ์ของเช็คสเปียร์
http://www.siteuri.ro/dvorak/SampleTextsResults/Shakespeare.html

ที่มา

Monday, March 31, 2008

GreaseMonkey: Google Pagerization

เวลาที่เรา search หาอะไรใน Google แต่ละที จะพบว่า มันแสดงผลการค้นหาให้ทีละ 10 อันดับ หลังจากเราก็ต้องกด next เพื่อให้แสดงผลการค้นในหน้าถัดไปใช่ไหมครับ

ใน Mozilla Firefox มี extension อยู่ตัวหนึ่งชื่อว่า GreaseMonkey ซึ่งจะทำหน้าที่ใส่ javascript ลงไปในหน้าเวบ url ที่เรากำหนด ซึ่งก็มี extension ตัวหนึ่งชื่อว่า Google Pagerization ทำหน้าที่ คอยตรวจดูว่า เรา scroll ผลการค้นหาของ Google ลงมาถึงไหนแล้ว ถ้าลงมาเกินครึ่งหน้าก็จะทำการ download ผลการค้นหาในหน้าถัดไปมารอไว้ โดยผู้ใช้สามารถ scroll ต่อเนื่องลงมา โดยไม่จำเป็นต้อง click link เพื่อไปยังผลการค้นหาในหน้าถัดไปแต่อย่างใดครับ ทำให้การใช้งาน Google สะดวกขึ้นอีกมากเลยครับ


วิธีการทำ:
  • เปิด Mozilla Firefox
  • ไป download GreaseMonkey จาก https://addons.mozilla.org/en-US/firefox/addon/748
  • หลังจาก install GreaseMonkey เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เห็นหน้าลิงเล็ก ๆ อยู่ทางมุมล่างขวา
  • ไป download Pagerization script จาก http://userscripts.org/scripts/show/7623 กด Install this script
  • เป็นอันเสร็จพิธี ที่เหลือก็ไป search ที่ Google ได้เลยครับ

Wednesday, March 19, 2008

ไว้อาลัยแด่ Arthur C. Clarke

วันนี้กลับมาเปิดข่าวอ่านตามปกติ แล้วก็พบกับข่าว Arthur C. Clarke นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ ระดับตำนาน เสียชีวิตด้วยวัย 90 ปี เท่าที่อ่าน ข่าวไม่ได้บอกรายละเอียดสาเหตุของการเสียชีวิตครับ

ผมติดตามผลงานของ Arthur C. Clarke มาตั้งแต่เรียนอยู่มัธยม จำได้ว่าซื้อหนังสือชุด Space Odyssey ที่สำนักพิมพ์ดอกหญ้าพิมพ์ออกมาทั้ง 4 เล่ม กับ Fountain of Paradise ที่เขียนเกี่ยวกับการใช้ Carbon Nano Tube มาประดิษฐ์เป็นลิฟท์อวกา ทำให้ผมสนใจนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อยมาและติดตามผลงานของ Arthur C. Clarke มาตลอดครับ

ผลงานที่ทำให้ผมได้รู้จัก Arthur C. Clarke
  • 2001 Space Odyssey
  • 2010 Odyssey Two
  • 2061 Odyssey Three
  • 3001 Final Odyssey
  • Fountain of Paradise
  • Rendezvous with Rama
  • Childhood's End
  • Light of Other Days
  • The Cradle
ขอไว้อาลัยแด่ Arthur C. Clarke ครับ

ที่มา:
http://www.msnbc.msn.com/id/23697230/
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9510000033362

Monday, March 10, 2008

ทำยังไง ถ้าต้องอดนอน

จะอดนอนยังไงไม่ให้เดี้ยงไปเสียก่อน??

บางทีเราก็เลี่ยงที่จะอดนอนไม่ได้ เพราะ ต้องรีบปั่นรายงานส่ง ต้องรีบทำงานให้เสร็จทันเวลา ต้องทำงานในช่วงเวลาที่เพิ่งจะอดนอนมาหยก ๆ

มีวิธีการอดนอนหลายวิธีด้วยกันครับ

ก่อนอื่น เรามาดูคำแนะนำของการนอนที่ดีกันก่อน

ไม่ควรใช้ยานอนหลับ หรือสารเคมีอย่างอื่นช่วยในการนอนหลับ
ถ้าไม่ง่วง ลงไปนอนแล้วไม่หลับ ก็อย่าฝืน ลุกขึ้นมาทำอย่างอื่นไปเลย ง่วงแล้วค่อยกลับมานอน ถ้าตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วนอนไม่หลับก็ทำแบบเดียวกัน
ตื่น และนอนเป็นเวลา ถ้าทำได้
อย่าทำอะไรให้ตัวเองตื่นเต้นก่อนนอน เช่น หาเรื่องเครียด ดูหนังตื่นเต้น อย่าเอางานไปทำบนเตียง
งดเครื่องดื่มคาเฟอีน 6 ชั่วโมงก่อนนอน
การดื่มเหล้าอาจจะช่วยให้รู้สึกเคลิ้มในช่วงแรก แต่อาจมีปัญหานอนไม่หลับต่อมา
การออกไปโดนแสงแดด จะช่วยให้เราปรับเวลาการนอนได้ดีขึ้น

ถ้าจำเป็นต้องอดนอน มีเทคนิคการนอนที่เรียกว่า polyphasic sleep โดยการแบ่งการนอนออกเป็นช่วงสั้น ๆ ในหนึ่งวัน มีสองแบบที่เป็นที่รู้จักกันดี

Uberman's sleep แบ่งการนอนออกเป็นครั้งละ 20-25 นาที ทุก ๆ 4 ชั่วโมง เอาไว้ใช้เป็นท่าไม้ตาย เวลาจำเป็นต้องถ่างตาจริง ๆ
Core sleep มีการเพิ่มเวลา 2-3 ชั่วโมงจาก Uberman's sleep

อีกวิธีหนึ่งถ้าง่วงนอนมากจนทนไม่ไหว แนะนำให้ทำ caffeine nap หลักการคือ load caffeine เข้าไปก่อนที่จะสิ้นสติ พอดื่มเสร็จแล้วให้นอนทันที ห้ามเกิน 15 นาที (reboot สมอง) ปัญหาคือ ถ้านานกว่า 30 นาที อาจจะทำให้เฉื่อยลงได้

อ้างอิงจาก Cheat on the Need to Sleep

Friday, February 22, 2008

wifi-radar สำหรับคนใช้ wireless lan บน linux

หลังจากที่ทดลองใช้ KUbuntu 7.04 เป็นต้นมา ผมก็ลองใช้เจ้าตัว KNetworkmanager ที่ติดมาด้วยกันมาเรื่อย ๆ ครับ จนกระทั่ง ถึง 7.10

ปัญหาของเจ้าตัวนี้ก็คือว่า มันจำเป็นต้องใช้รหัสที่อยู่ใน KWallet มันก็เลยถาม password ทุกครั้งที่ทำการเชื่อมต่อเข้า secured network

ได้ไปเจอเครื่องมือตัวหนึ่งครับ ชื่อว่า wifi-radar ซึ่งทำหน้าที่คล้าย ๆ กับ KNetworkmanager แต่ว่ามีการ install ตัว daemon ลงไปใน directory /etc/init.d ด้วย ดังนั้นก็เลยสามารถทำการเชื่อมต่อ wireless network ได้ก่อนที่จะเข้าสู่กราฟฟิคโหมด นอกจากนี้โปรแกรมยังสามารถแยก config ของ network ของแต่ละที่เอาไว้ได้ด้วย ตามฉลากเขียนไว้ว่า โปรแกรมสามารถใช้ได้กับ wireless interface ที่ถูก configure ผ่าน iwconfig interface ได้ทั้งหมด

โปรแกรมถูกรวมเข้ามาใน repo ของ ubuntu อยู่แล้วครับ สามารถติดตั้งได้โดยคำสั่ง

sudo apt-get install wifi-radar

เวลาเรียกใช้งาน ต้องเป็น superuser เท่านั้น

sudo wifi-radar


ที่มา: Wifi-Radar

Friday, February 15, 2008

People's republic of Thailand virus

หลายเดือนก่อนเขียนถึง Flashy worm ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีต้นกำเนิดอยู่ในประเทศไทย แล้วก็ระบาดไปตามที่ต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุผลที่ว่า โปรแกรม AntiVirus ของต่างประเทศมันยังไม่รู้จัก โดยไวรัสมันใช้ช่องโหว่ของความสามารถในการ run ไฟล์ autorun.inf อัตโนมัติบน Windows

เมื่อสักสองสามเดือนก่อนก็เริ่มเจอ ไวรัสอีกตัวหนึ่ง ซึ่งก็คงจะเป็นไวรัสสายพันธุ์ไทยเช่นเดียวกัน และใช้ไฟล์ autorun.inf ในการแพร่กระจายเชื้อเช่นเดียวกัน โดยเจ้าตัวไวรัสเองมันเป็น visual basic script (.VBS) ปัญหาของไวรัสตัวนี้ทำให้หน้า Home page ของ Internet Explorer กลายเป็นปรากฏคำว่า People's Republic of Thailand แทน บางทีก็มีกระแสข่าวมาบ้างเหมือนกันว่าทำให้ flash drive ข้อมูลหายเกลี้ยงได้เหมือนกันครับ นอกจากนี้เจ้าไวรัสตัวนี้มันยังมีความสามารถในการซ่อนตัวหลายอย่างด้วยกัน ก็คือ
  • ขนาดไฟล์ (ตัวไวรัสเอง) เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ไม่คงที่
  • ชื่อไฟล์เกิดจากการสุ่ม ซึ่งจะเปลียนไปเรื่อย ๆ
  • การลบไฟล์ออกจากระบบเพียงอย่างเดียวไม่ช่วยให้ไวรัสหายไปเพราะว่ามันถูก load ขึ้น memory ทุกครั้งที่มีการเปิดเครื่องใหม่



วิธีการแก้ ในตอนนี้ก็มี post เอาไว้มากมายใน internet ลอง search หาใน google ด้วย keyword คำว่า People's Republic of Thailand ก็จะพบเต็มไปหมด

วิธีการแก้จะต้องทำใน Safe mode เพราะไวรัสตัวนี้มันจะถูก load ผ่าน registry ทุกครั้งที่มีการ boot Windows ครับ


  • Boot เข้า safe mode ด้วยการกด F8 ไปเรื่อย ๆ ตอนบูตเครื่อง เลือก safe mode
  • เข้าไปที่ folder \Windows\System32
  • หาชื่อไฟล์ที่นามสกุล .vbs ที่มีชื่ออ่านไม่ออก แบบในรูปข้างบน แล้วลบทิ้งให้หมด
  • ไปที่เมนู Start -> Run... -> พิมพ์ msconfig [enter]
  • เอาเครื่องหมายถูกออกจากหน้าไฟล์ที่นามสกุล .vbs ให้หมด
  • เข้า registry edit เพื่อแก้ให้หน้าจอ home page ของ Internet Explorer กลับเป็นปกติ ไปที่ Start -> Run -> regedit [enter]
  • ไปที่ HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Internet Explorer\Main\
  • แก้ไขค่า Start Page ให้กลายเป็น about:blank

เท่านี้ก็เป็นเสร็จครับ ปัญหาก็คือ ในอนาคต เราอาจจะเจอกับ ไวรัสที่เป็น vbs ที่มากับ autorun ได้อีก

วิธีแก้ปัญหาก็มีหลายวิธีด้วยกัน
  • ทำให้ไฟล์ .vbs ถูกเปิดด้วย โปรแกรมอื่น (เช่น notepad) แทน script จะได้ไม่ถูก run โดยที่เราไม่รู้
  • โดยการไปที่ Explorer -> Tools -> Folder options
  • ไปที่ File association หา item ชื่อ vbs
  • กดเข้าไปเปลี่ยนชื่อโปรแกรมที่จะใช้ run ให้กลายเป็น notepad.exe
เท่านี้ทุกครั้งที่มีการ run ไฟล์ vbs ผ่านทาง autorun.inf ก็จะเป็นการเปิด ไฟล์ผ่าน notepad แทน
วิธีนี้จะทำให้เรา run ไฟล์ vbs script โดยการ double click ได้อีก เพราะมันจะไปเปิด notepad แทน

อีกวิธีคือการแก้ registry ปิด function autorun.inf
  • ไปที่ Start -> Run... -> regedit
  • ไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE -> SYSTEM -> CurrentControlSet -> Services -> Cdrom
  • ตั้งค่าของ Autorun จาก 1 เป็น = 0

อีกวิธีหนึ่ง คือ ใช้โปรแกรม ที่ลบไฟล์ autorun.inf ทุกครั้งที่ทำการเสียบ flash drive เข้าไป รวมไปถึง drive ชนิดอื่น ๆ ด้วย คือโปรแกรมนี้เลยครับ Autorun Eater

หรือถ้าหากไม่อยากปรับแต่งอะไรกับระบบเลย ก็ต้องระวังตัวกันเองครับ โดยการป้องกันการเปิดไฟล์ autorun ทุกครั้งที่จะเสียบ flash drive โดยการกด shift ค้างไว้ทุกครั้งระหว่างที่เสียบ flash drive และเวลาจะเปิด flash drive ทุกครั้งผ่านทาง My Computer ให้ใช้ click ขวา แล้วเลือก Explorer แทนการ double click แทนครับ

สำหรับการลบไวรัสใน flash drive ซึ่งทุกวันนี้ยังมีคนเอามาให้ลบอยู่ตลอด ง่ายที่สุดคือ ใช้ linux แล้วก็เข้า console ไปลบ *.vbs กับ autorun.inf โดยไม่ต้องกลัวติด เพราะไวรัสมันไม่รู้จัก linux และ linux ก้ไม่ใช้ autorun ครับ